1. ใจแคบเท่าพุงมด
ในสถานการณ์ที่เกิด “ความผิ ดพลาด” คุณมักจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริง
ของใครบางคนเสมอคนบางคนก็มักจะชี้นิ้วใส่คนอื่นเวลามีอะไรผิด
แล้วเขาก็มักจะมีคำตอบให้กับทุ กเรื่องที่สำคัญคือ เชื่อแบบผิด ๆ
ว่าความคิดของตัวเองถูกเสมอ และไม่ค่อยจะยอมฟังใคร
ซึ่งมันน่าจะดีกว่า ถ้าคุณจะยอมเปิดใจรับฟังคนอื่นบ้าง เพราะการได้ถกเถียง
รับฟังความเห็นกันมันสามารถสร้างทีมเวิร์กที่ดีได้ ถึงแม้ว่า บทสรุป
ในตอนท้ายไอเดียของคุณจะยังเป็นทางดีที่สุดก็ตาม
2. หงุดหงิด ขี้บ่น
ไม่มีใครชอบคนที่มองอะไรก็เห็นแต่เรื่อง แ ย่ ๆ โดยเฉพาะถ้าเห็นแล้วก็มีแต่บ่น
ก็จะยิ่งทำให้คนรอบข้างรู้สึก แ ย่ ไม่อย ากจะทำหรือพัฒนา แก้ไขให้อะไร ๆ
ดีขึ้นถ้าคุณมัวแต่หมดพลังงานไปกับการบ่นหรือคร่ำครวญ นั่นหมายถึง
คุณเอาแต่เติมพลังลบให้กับตัวเอง และในขณะเดียวกัน คุณก็กำลังทำให้ไม่มี
ใครอย ากเข้าใกล้คุณอีกด้วย
3. ใจเขาใจเราคืออะไร.. ไม่รู้จัก!
สำหรับใครที่ชอบนึกดูถู ก มองไม่เห็นหัวใคร หรือพูดถากถางคนอื่นบ่อย ๆ
จนติ ดเป็นนิสัยขอบอกให้รู้เลยว่า คุณกำลังทำสิ่งที่ แ ย่
และน่ารังเกียจมากในความเห็นของคนอื่นหนำซ้ำพฤติกร รมแบบนี้ยังอาจส่งผล
ไปถึงการบ่อน ทำล ายองค์กรเลยก็ได้นะ! นิสัยปากเ สีย
ทำให้คุณดูเป็นคนเกรี้ยวกราดไม่น่าเข้าใกล้ ในทางกลับกัน การรู้จักเอาใจเขามา
ใส่ใจเรารู้จักเข้าอกเข้าใจคนอื่นก็จะดึงดูดให้ใคร ๆ ก็อย ากเข้าหาคุณ
เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกดีรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าถ้าเป็นลูกน้อง เขาจะยอม
ทำงานถวายหัวให้กับคุณ หรือถ้าเป็นลูกค้า
เขาก็จะรู้สึกดีที่คุณใส่ใจ และอย ากกลับมาใช้บริการบ่อย ๆ จนกลายเป็นท็อปแฟน
ของคุณได้อย่ างไม่ย าก
4. บ้าอำนาจขั้นสุด!
สำหรับผู้บริหาร ขอให้ทบทวนตัวเองสักหน่อยว่า.. คุณเป็นนายประเภท
“ต้องทำตามที่บอกเท่านั้น” หรือไม่ ?
..ถ้าใช่ ก็ขอให้รู้ไว้ตรงนี้เลยว่า คุณกำลังปล่อยพิ ษร้ ายขั้นรุ นแรง แ ก่องค์กร
เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อไหร่ที่องค์กรขับเคลื่อนด้วย “ความกลัว”
ไม่ว่าจะกลัวมีความผิด กลัวถูกตำหนิกลัวถูกหักเ งินเดือน กลัวโดนประจาน
หรืออะไรก็ตามแต่ มันไม่ใช่เรื่องดีอย่ างแน่อน
โดยเฉพาะถ้าเทียบกับการขับเคลื่อนองค์กรด้วยพลังบวก ที่ใคร ๆ ก็อย ากแสดง
ความคิดเห็นอย ากทดลองทำอะไรใหม่ ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่า
ถ้าทำพลาดไปแล้วจะโดนด่าความกระตือรือร้นของพนักงานย่อมต่างกันอย่ างแน่นอน
แม้ว่ามันจะง่าย เวลาจะสั่งหรือคอนโทรลอะไร ๆโดยใช้ “ความกลัว” เป็นแรงขับ
แต่คุณก็ต้องแลกกับการทำให้องค์กรไม่มีชีวิตไร้ความคิดสร้างสรรค์ ทุ กคนอยู่อย่ าง
ห วาดระแวง กลัวว่าถ้าทำผิดแล้วจะโดนดุองค์กรประเภทนี้ ไม่มีทางสร้างอะไรดี ๆ
ขึ้นได้อย่ างแน่นอน!
5. หลงตัวเองสุดขอบโลก
การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ไม่เพียงทำให้เ สียโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์
สิ่งใหม่แล้วคุณยังขยี้ “ใจ” ที่อย ากจะทำงานของคนอื่น ๆ ลงจนป่นปี้ !
ถ้าใครทบทวนตัวเองแล้วคิดว่า ตรงกับตัวเองอยู่บ้าง ก็ขอให้เลิกนิสัยเสี ย ๆ นี้ให้ได้
ก่อนที่อะไร ๆ จะ แ ย่ จนเกินแก้ยิ่งโดยเฉพาะผู้ประกอบการเจ้าของกิจการทั้งหลาย
อย่ าคิดว่าเป็นเจ้าของแล้วจะทำอะไรก็ได้ ลองทบทวนตัวเองและเปลี่ยนเสี ยก่อน
ที่ธุรกิจพังคามือเพราะไม่ยอมเลิกพฤติกร รม แ ย่ ๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตื อน!
ขอบคุณที่มา : jingjai999