1 : คำว่า “ขอบคุณ”
แน่นอนว่า การพูดขอบคุณในทุ กสถานการณ์ จะทำให้ตัวเรา
เป็นคนน่ารัก น่าคบหาและเมื่อมีคนได้รับคำขอบคุณนั้นไป
เขาจะรู้สึกดีกับตัวเราด้วย
ส่วนตัวเขาเองก็จะมีกำลังใจ ในการทำความดีต่อไปมาฝึกพูดให้
ชีวิตดีขึ้นกันดีกว่าฝึกให้เป็นตัวเอง แล้วชีวิตของเราก็จะ
ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
2 : คำว่า “ไม่เป็นไร”
การยกโ ทษให้คนอื่น ก็คือการสร้างมิตรภาพ และการยกเอาความ
ยุ่งย ากใจออกไปการให้อภั ย ใช้ได้กับทุ กคน แต่ก็ไม่ได้หมาย
ความว่าให้อภั ย
แล้วจะกลับไปเจ็ บซ้ำ ๆ หากคนคนนั้นทำร้า ยเรา เราก็ออกมาอยู่ห่าง ๆ
ให้อภั ยแล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีงาม
3 : คำว่า “ฉันเป็นคนดี”
เรามักได้ยินคำ ๆ นึงบ่อยมาก ว่าฉันไม่ได้เป็นคนดีเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ถูกต้อง
เรากำลังไม่เชื่อในความดีงามในตัวเอง คำนี้เราไม่ต้องไปพูดให้ใครฟังหรอก
ขอแค่พูดกับตัวเองบ่อย ๆ
ว่าฉันเป็นคนดีนะ จิตใต้สำนึกของเราจะจดจำสิ่งนี้แล้วก็จะปรับปรุงตัวเองให้
คนดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเป็นคนดี เราก็จะสร้างปัญหาให้กับตัวเองน้อยลง
4 : คำว่า “ขอเวลาอีกสักหน่อย”
การขอเวลา เป็นการต่อรองในกรณีที่เราไม่อาจทำงานให้เสร็จตามที่ต กลงไว้
รวมถึงการใช้คืนห นี้สิน การขอเวลาเป็นการเผชิญหน้า
กับความจริงอย่ างกล้าหาญฝึกตนเองให้กล้าหาญ และมีความรับผิดชอบ
ด้วยการพูดคำ ๆ นี้ แต่อย่ าให้บ่อยจนเกินไปนักล่ะ
5 : คำว่า “รัก”
คำสำคัญที่สามารถบอกใครต่อใครรอบตัวได้ แล้วมันจะส่งพลังให้กับทุ กคน
รวมถึงตัวเราเอง แต่อย่ าลืมพูดคำว่ารัก ด้วยความจริงใจนะ
โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว พูดให้ได้ทุ กวัน
แล้วมันจะดีขึ้นจริง ๆ
6 : คำว่า “ขอโ ทษ”
เชื่อไหมว่า พวกเราหลาย ๆ คนมักเขินอายกับคำ ๆ นี้ โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัว
เรามักไม่เอ่ยคำขอโ ทษกับคนในครอบครัว ทั้งที่ความจริงแล้ว
คำ ๆ นี้จะช่วยประสานรอยร้าวภายในบ้านได้ด้วยนะ นอกจากนี้
เมื่อเราเอ่ยคำว่าขอโ ทษ ตัวเราก็จะถูกปลดปล่อยจากความรู้สึกผิด
รู้สึกไม่สบายใจอีกด้วย แค่อย่ าพูดขอโ ทษพร่ำเพรื่อเกินไปละ
มันจะกลายเป็นดูน่ารำคาญได้
6 : คำว่า “ฉันเก่งนะเนี่ย”
การชื่นชมในความสามารถของผู้อื่น ที่ไม่ใช่การประจบประแจง
ต้องชื่นชมด้วยความจริงใจ จะช่วยสร้างมิตรภาพ
ช่วยฝึกตัวเราเองให้ถ่อมตน เป็นที่รักของใคร ๆ
อะไรก็จะดีไปหมด
ขอบคุณที่มา : the-wayoflife