พ่อคนหนึ่ง ชวนลูกชายไปเดินที่ชายหาด พร้อมกับสอนลูก โดยการใช้
ไม้ขีดทราย 2 เส้น เป็นเส้นขนานกัน เส้นหนึ่งย าว 3 ฟุต อีกเส้นหนึ่งย าว 5 ฟุต
พ่อเลยถามลูกว่า…
ลูกสามารถทำให้เส้น 3 ฟุตย าวกว่าเส้น 5 ฟุตได้หรือเปล่า?
ลูกครุ่นคิดแล้วก็ ทำการลบเส้นนย าว 5 ฟุตให้สั้นลง
เหลือแค่ ฟุตเดียว เส้น 3 ฟุต เลยย าวกว่าอย่ างเห็นได้ชัด
“ลูกจึงถามพ่อว่า ทำแบบนี้ถูกไหมครับพ่อ?”
พ่อยิ้ม มองหน้าลูกช าย แล้วบอกกับลูกช ายอย่ างจริงจัง ลูกตั้งใจฟังพ่อนะ
เรื่องนี้สอนลูกว่า…
“คนที่จะยกตนเองให้สูงขึ้น โดยการทำร้ ายคู่แข่งนั้น ไม่ใช่วิ ธีที่ถูกต้อง
เพราะเท่ากับเราไปทำร้ ายคนอื่น
เพื่อให้ตัวเองนั้นสูงขึ้น แต่เราควรทำตัวเองให้พัฒนาแล้วยกตัวเองขึ้นจาก
ความสามารถเราเอง ไม่ใช่ไปลดค่าของคนอื่นลง”
จากนั้นพ่อขีดเส้นขนาน 2 เส้นเหมือนเดิม คือ 3และ 5 ฟุต แล้วพ่อก็ขีดเส้น 3 ฟุต
ให้ย าวขึ้นเป็น 10 ฟุตแล้วพูดว่า…
ดูให้ดีนะ ลูก… “จงอย่ าคิดว่าคู่แข่งคือศั ต รู แต่ให้คิดว่าเป็นครู”
“เราจะต้องพัฒนาตนเองให้เทียบเท่าหรือดีกว่า.”
เพราะจะทำให้ลูกได้ก้าวไปข้างหน้าอย่ างสง่างาม และภาคภู มิใจในตนเองอย่ างแท้จริง
หากไร้คู่แข่งแล้ว เราจะรู้ได้อย่ างไรว่าตัวเองมีศักยภาพในการทำง า นขนาดไหน
ไม่มีอั ป ลั ก ษ ณ์ก็ไม่รู้จักสวยงาม
การที่คนเราจะยกตัวเองสูงขึ้นไป โดยการทำร้ ายผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยวาจา
การกระทำ ถึงแม้จะประสบความสำเร็จ
ก็ใช่ว่าจะมีความภาคภูมิใจ ไร้เกี ยรติ การเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยการก ด ขี่
ผู้อื่น กับการเลื่อนตัวเองขึ้นไปโดยปล่อยให้คนอื่นได้ก้าวไปตามวิถีทาง
ของเขา ตามความสามารถของเขาย่อมมีผลลัพธ์ที่ต่างกันการเลื่อนตัวเองขึ้น
พร้อมกับลดคนอื่นลง ลูกอาจจะชนะก็จริงแต่ อ ย่ าลืมว่าลูกจะได้ ศั ต รูตามมาด้วย
แต่การเลื่อนตัวเองขึ้นโดยไม่ไปลดคนอื่นลง ลูกอาจเป็นผู้ชนะ พร้อมกับยังมีเพื่อนแท้เพิ่มขึ้น
และหนึ่งในนั้นอาจเป็นคู่แข่งของลูกเองด้วย หรือหากลูกเป็นคนที่
พัฒนาตัวเองแล้ว จงอย่ าลืมที่จะมีน้ำใจนักกีฬาด้วย
เรื่องนี้สอนให้เราได้เข้าใจว่า…
การที่เรามองคู่แข็งเป็นเสมือนครูอีกคนของเรานั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ดี ไม่ทำร้ ายกัน
หรือผิ ด ใจกันทำให้สังคมเป็นสังคมที่มีการพัฒนา มีแต่ความเจริญงอกงาม
ในสังคมอีกด้วย
ขอบคุณที่มา : chayend