ก่อนที่จะคืนสู่ชนบท ทำนาปลูกผักและใช้ชีวิต กลมกลืนกับธรรมชาติ
จนเป็นแรงบันดาลใจให้แ ก่หนุ่มสาวหลายคนที่ต้องการหันหลังให้กับชีวิตว้าวุ่น
ในเมือง โจน จันได เคยอยู่แบบปากกัดตีนถีบในกรุง ด้วยความ
ใฝ่ฝันอย ากร่ำร วยเหมือนคนทั่วไป ช่วงหนึ่งเขาได้งานเป็นพนักงานทำความสะอาด
ในโรงแรม หัวหน้าของเขาคือ แม่บ้าน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เขาไม่เคยพบมาก่อน คือ
เป็นคนปากร้า ย เจอกันทีไรเธอก็ชี้หน้าด่า
ก่อนแล้วก็ไป วันหนึ่งเธอสั่งให้เขาขัดลูกบิดประตูในห้องพักด้วยน้ำย าบรัสโซ
ขณะที่เขาทำใกล้จะเสร็จ ผู้จัดการเดินผ่ านมา พอเห็นเข้าก็ต่อว่าเขาว่า ?
ใช้บรัสโซขัดได้ยังไง มันขัดไม่ได้ ?
ได้ยินเช่นนั้นแม่บ้าน
ก็ซ้ำเขาทันทีว่า ? เธอขัดได้ยังไง ? แม้นึกไม่ถึงว่าแม่บ้านจะพูดเช่นนั้นกับเขา
แต่แทนที่จะโต้เถียง
โจนกลับยิ้มให้ ยกมือไหว้ พร้อมกับพูดว่า ?
ขอโ ทษครับ ขอบคุณครับที่เตื อนผม?
นั่นเป็นเหตุ การณ์หนึ่งที่เปลี่ยนแปลงเขา โจนเล่าว่า นับแต่นั้นมาเขาฝึกที่จะยิ้ม
ให้แ ก่คนที่ด่าเขาทุ กครั้งที่แม่บ้านด่าว่าเขาเขาจะยกมือไหว้และกล่าวคำขอบคุณ ใหม่ ๆ
เขารู้สึกละอายใจที่พูดอย่ างนั้นเพราะรู้สึกเหมือนเสแสร้ง
แต่ตอนหลังเขาพูดได้อย่ างสบายใจเพราะมีความรู้สึกอย่ างที่พูดจริง ๆ คือ
ขอบคุณที่แม่บ้านเตื อนเขาและช่วยให้เขาหันมาจัดการกับความโกรธของตัว
พนักงานทั้งโรมแรมหาว่าเขาฟั่ นเฟือน บางคนก็บอกว่า
เขาโ ง่ที่ยอมให้แม่บ้านจิกหัวใช้แต่โจนไม่ถือสา จนกระทั่งหนึ่งเดือนผ่ านไป
แม่บ้านอดรนทนไม่ได้ เรียกเขามาหาด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาทำอย่ างนั้น
ทุ กครั้งที่เธอด่าเขา โจนจึงชี้แจงว่า เขารู้สึกขอบคุณ
แม่บ้านจริง ๆ ที่เตื อนให้เขากลับมาดูตัวเอง และเตื อนให้เขามาใคร่ครวญว่า
ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกรธในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนที่แม่บ้านพูดอะไรไปนั้น
ก็เป็นเรื่องของแม่บ้าน จะเป็นเพราะความคุ้นเคย
หรือเป็นความชอบของแม่บ้านก็แล้วแต่ผลก็คือ นับแต่วันนั้นแม่บ้านก็ไม่เคยต่อว่า
ด่าทอเขาอีกเลย
ส่วนตัวเขาเองก็ได้นิสัยใหม่ ใครจะพูดอย่ างไรกับเขา ดุด่าอย่ างไร เขาก็ไม่โกรธ
สามารถยิ้มให้ได้ไม่ใช่โจนคนเดิมที่โกรธจนหน้าแดงเวลาเจอคำผรุสวาท
แม่บ้านเปลี่ยนไปเพราะความสุภาพอ่อนโยน
ของโจน จะเรียกว่าความดีของโจนชนะใจเธอก็ได้ แต่ที่โจนทำได้เช่นนั้นก็เพราะ
เขาชนะใจตัวเองเป็นอย่ างแรก นั่นคือ ชนะความโกรธในใจตน ไม่ปล่อยให้
ความโกรธครอบงำจนเผลอพูดและทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม
เวลาถูกด่าว่า เรามักคิดว่าการโต้กลับด้วยถ้อยคำที่แรงกว่า เป็นวิ ธีที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้
แต่บ่อยครั้งมันกลับทำให้สถานการณ์เล วร้ ายกว่าเดิม และลงเอยด้วยความเสี ยหาย
พ่ายแพ้ของทั้งสองฝ่าย น้อยคนที่ตระหนักว่า
ความอ่อนโยนนั้นสามารถเอาชนะความก้าวร้าว เช่นเดียวกับความเมตตาที่สามารถเอาชนะ
ความโกรธได้เรื่องราวของโจนยังบอกให้เรารู้ว่า คำต่อว่าด่าทอ ดูให้ดีก็มีคุณ
หากรู้จักใช้ประโยชน์จากมัน สิ่งดี ๆ ก็สามารถ
เกิดขึ้นกับชีวิตของเราได้ ถ้ามองเป็น แม้กระทั่งคนที่ต่อว่าด่าทอเรา ก็สมควรได้รับ
ความขอบคุณจากเราด้วยซ้ำมองให้กว้างออกไป เมื่อมีสิ่งแ ย่ ๆ เกิดขึ้นกับเรา
ใช่ว่าเราจะต้องทุ กข์เสมอไป จะทุ กข์หรือไม่อยู่ที่ว่าเรารู้สึก
กับมันอย่ างไร ถ้าวางใจเป็น ก็ยังเป็นสุขหรือยิ้มได้
ขอบคุณที่มา : create-readingth