1. สนใจแต่เฉพาะเรื่องตัวเอง
มักจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่ต้องการให้คนช่วยเสร็จแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆ
คนประเภทนี้เอาคำว่า “เพื่อน” หรือความสัมพันธ์ต่างๆ
มาบังหน้าไว้เท่านั้นคุณสมบัติของคนเหล่านี้ ร้อยวันพันปีหากไม่มีเรื่องอะไรที่
ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เขาจะไม่โผล่ตัวมาหาคุณเลย
ยกตัวอย่ างเล็ก ๆ เช่น เขาจะ แชทส่งข้อความ ทักคุณมาก็ต่อเมื่อเขา
กำลังมีเรื่องให้คุณช่วยเท่านั้นกลุ่มบุคคลนี้มักเป็นผู้เห็นแ ก่
ได้ฝ่ายเดียวซะด้วยสิ และพอเขาใช้งานคุณเสร็จแล้วก็หายตัวเข้ากลีบเมฆ
ไปอย่ างรวดเร็วบุคคลเหล่านี้ขัดกับตำราเพื่อนที่ดีที่ได้กล่าวไว้ว่า
คนช่วยต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันคนประเภทนี้หากคุณสังเกตดีๆว่าเวลา
คุณต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาบ้างบางครั้งเขาอาจจะไม่ปรากฏตัวเลยก็เป็นได้นะ
2. เป็นนักกุเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความเป็นจริง
บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเอง
ได้ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงต่อผู้อื่นไปแล้ว
ฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองเช่นไรบุคคลประเภทนี้มักชอบพูดจาบิดเบือน
ความจริง จนบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง
3. ไม่มีความ “เสมอภาค” ในมิตรภาพ ไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่าย
คุณอาจสงสัยว่าหมายถึงบุคคลประเภทนี้ใดกัน บุคคลประเภทนี้ก็หมายถึงบุคคลที่ชอบ
ทำอะไรที่ไม่เป็นธรรมตัวอย่ างก็เช่นเวลาใดที่บุคคลเหล่านี้มีเรื่องทุ กข์ใจ
อย ากเเ ช ร์ก็ไปหาคุณได้ตลอดเวลาแต่พอคุณมีเรื่องต้องการคนปรับทุ กข์บ้าง
คุณกลับไม่สามารถไปหาคนคนนี้ได้เนื่องจากเขากลับไม่ได้รับฟัง
หรือ เขาอาจเรียกร้องน้ำใจของคุณอยู่ฝ่ายเดียวเช่น ช่วยงานให้เขาหรือให้คุณช่วย
อะไรเขาจิปาถะแต่เมื่อถึงทีของคุณบ้างคุณกลับไม่ได้รับน้ำใจ
นั้นกลับคืนมา เรื่องนี้ดูเผินๆอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มันมีความหมายว่าแท้จริงแล้ว
เขาไม่ได้มองเห็นความสำคัญในตัวคุณมากที่คุณคิด
4. กอบโกยผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว จ้องเอารัดเอาเปรียบไม่มีที่สิ้นสุด
บุคคลประเภทนี้มักจะแอบแฝงมาในรูปแบบเพื่อนหรือคนสนิทต่างๆเข้ามาหาคุณ
ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่เขาเข้าหาคุณนั้น
เพียงเพื่อจะมาเอาผลประโยชน์จากคุณเท่านั้นซึ่งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่อาจ
จะเป็นแรงกายหรือทรัพย์สินทางสติปัญญาของคุณเพื่อโอน
เข้าทางประโยชน์ของเขามันเป็นเรื่องปกติมากที่คนเราทุ กคนเกิดมาอย่ าง “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า”
ความหมายคือคนเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน ย้ำอีกที “ซึ่งกันและกัน”
แต่บุคคลนี้กลับใช้คตินี้ตีความผิดไปหรือไม่ก็ตีความไม่ครบ เขากลับเห็นแต่ประโยชน์
ที่คุณจะสามารถให้เขาได้ใช้เล่ห์กลเพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณส ารพัดรูปแบบ
สำคัญแต่ตัวจะรับไม่คำนึงถึงการให้โดยเบื้องลึกของจิตใจคนเหล่านี้บางคนไม่ได้คิด
แม้แต่จะหาทางตอบแทนคุณอย่ างใด
5. ทำตัวเป็น “งูเห่า” เลี้ยงไม่เชื่อง
สมัยเด็ กคุณคงเคยได้ยินนิทานก่อนนอนเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” มาบ้างแล้วบางทีคุณไม่ได้โ ง่หรอก
ที่เมื่อเพิ่งรู้จักกันระยะแรกคุณมองไม่ออกว่าคนรอบตัวคุณใครคือ “งูเห่า”
ด้วยความที่คุณเป็นคนดีคุณก็เมตตาคนประเภทนี้ไปเรื่อย ๆ แต่คนประเภทนี้นอกจากเขาอาจจะไม่ได้
ตอบแทนคุณด้วยการขอบคุณหือความรู้สึกที่ดีต่อคุณ
เขายังไปฉกกัดคุณ มีความริษย าในด วงใจ จ้องจะทำร้ า ยคุณเป็นผลตอบแทน
ขอบคุณที่มา : verrysmilejung