อย่ าอินกับการถูกรัก และการถูกเกลี ยดมากนัก
เวลาคนรักเรา ชอบเรา
อาจเพราะเรามีหลายเหตุปัจจัย สอดคล้องกับความชอบนั้น
เราอาจมีรูปร่างหน้าตา น้ำเสี ยง ในแบบที่เขาชอบ
เราอาจมีความคิด การพูดจา บุคลิก ในแบบที่เขาชอบ
เราอาจมีสิ่งบำเรอชีวิต เช่น บ้าน รถ ชื่อเสี ยง ในแบบที่เขาชอบ
เขาไม่ได้เพิ่งมาชอบสิ่งเหล่านี้ เมื่อเจอเรา เขาชอบของเขามาตั้งนานแล้ว
เขาสั่งสมความชอบแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว มันอยู่ในความทรงจำ
ประสบการณ์ ความเชื่อ ของเขา
และเราดันไปสอดคล้องกับเช็คลิสต์ในใจเขา มันก็แค่นั้น
เช่นกัน.. เวลาคนเกลี ยดเรา ไม่รักเรา
อาจเพราะเรามีหลายเหตุปัจจัย สอดคล้องกับความเกลี ยดนั้น
เราอาจมีรูปร่างหน้าตา น้ำเสี ยง ความคิด การพูดจา
บุคลิก หรือสิ่งบำเรอชีวิต ในแบบที่ขัดหูขัดตาขัดใจเขา
ซึ่งเขาเองก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้มานานแล้ว
นานก่อนจะเจอเรา นานก่อนเขาจะจำอะไร ๆ ได้
มันอยู่ในความทรงจำ ประสบการณ์ ความเชื่อ ของเขา
เราแค่ไปอยู่ในจุดที่ดันตรงกับความเกลี ยดของเขาพอดี ..มันก็แค่นั้น
คนที่ชอบเราวันนี้ เขาจะชอบต่อไป หากเรายังอยู่ในเช็คลิสต์ของเขา
แต่วันหนึ่ง หากมี ด้านหนึ่งที่ไม่เป็นดั่งใจเขา เขาก็อาจเกลี ยดเรา ไม่ชอบเรา โจมตีเราได้
คนที่ไม่ชอบเราวันนี้ เขาก็จะไม่ชอบต่อไป หากเรายังอยู่ในเช็คลิสต์ของเขา
แต่วันหนึ่ง หากมี ด้านหนึ่งที่โดนใจ ถูกใจเขาขึ้นมา เขาก็อาจหันมาชอบเราก็ได้
แล้วจะไปเดื อดร้อนกับความชอบ หรือไม่ชอบของคนอื่นทำไม
ในเมื่อมันไม่ได้เกี่ยวกับเราไปซะทั้งหมด มันเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่ฝังอยู่ในใจเขาทั้งนั้น
คนมากมายต่างเคยถูกรักและเคยถูกเกลี ยด
ทั้งดารา ศิลปิน นักร้อง คนมีชื่อเสี ยงมากมาย พ ระ พ ระพุทธเจ้า ศ าสดาต่าง ๆ ก็เช่นกัน
ป้าข้างบ้าน พ่อค้าแม่ค้าในตลาด พนักงานที่เราพบหน้า
คุณก็ด้วย เพื่อนคุณก็ด้วย คนที่คุณรักและเกลี ยดก็ด้วย ..ผมก็ไม่ต่างกัน
หากเรายังฝากชีวิตไว้กับความชอบไม่ชอบของคนอื่น
เราจะเหมือนคนที่ขังตัวเองในเช็คลิสต์ของคนอื่นเสมอ
เราจะอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไร้อิสรภาพ
มีชีวิตอยู่ด้วยความกลัว ความหวาดระแวง กังวล
เราจะเป็นเหมือน “พรมเช็ดความรู้สึก” ของใครบางคน
เราจะกลายเป็นคนไล่ล่าความรัก โหยหาความเมตตา
เราจะกลายเป็นคนรักตัวเองไม่ลง ต้องพึ่งพาคนอื่นเสมอ
นั่นหรือชีวิต.. ชีวิตที่ไร้ชีวิตแบบนี้ คือชีวิตจริง ๆ หรือ
ทุ กคนล้วนเป็นที่รักและที่ชัง นี่คือความปกติของชีวิต
วันหนึ่ง คนที่รักคุณ อาจจะเลิกรา หักหลัง เกลี ยดคุณไป
วันหนึ่ง คนที่ชอบคุณ อาจถูกเสี้ยมสอนให้ผลักไสคุณ
วันหนึ่ง คนที่ศรัทธาคุณ อาจหมดความเชื่อถือในตัวคุณ
ไม่ต้องห่วง.. พวกเขาจะหาเหตุผลส ารพัด เพื่อทำให้ตัวเองถูกต้อง
พวกเขาจะอ้างว่าเขาเสี ยผลประโยชน์บางอย่ าง
เพราะเขาอาจแค่มาพบคุณ เพื่อตักตวงบางสิ่ง
พอเขาไม่ได้ดั่งใจ เขาก็แค่อาจหาทางทำลายคุณซะก็ได้
พวกเขาจะอ้างว่ายังจดจำความผิดของคุณได้ดี
เพราะเขาอาจลืมไปว่า เขาทำผิดอะไรกับคุณบ้าง
บางความผิด คุณอาจไม่ได้มีส่วนทั้งหมด
คนรอบกายเขา สังคมรอบกายเขา หรือแม้แต่ตัวเขาเอง ก็อาจมีส่วนเช่นกัน
แต่คุณอาจซ วย โดนยกพวกรุมเพื่อป้ายสีความผิด
ไม่มีใครเป็นตัวร้ าย ในเรื่องเล่าของตัวเองหรอก การโ ทษใครบางคน มันง่ายกว่าเสมอ
คนส่วนใหญ่ อย ากสร้างภาพให้ตัวเองดูดีไร้ม ลทิน พวกเขาก็แค่ต้องหาตัวร้ ายสักตัว
อาจแ ย่หน่อย ที่บางทีหวยก็มาออกที่คุณ
พวกเขาจะอ้างว่าคุณเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม
เพราะเขาลืมไปว่า เขาก็อาจไม่เหมือนเดิมเช่นกัน
และเขาอาจไม่เห็นว่า คุณเปลี่ยนแปลงเพราะเขาเปลี่ยนไป
พวกเขาอาจอ้างว่า คบกับคุณแล้วชีวิตอยู่กับที่หรือต กต่ำ
แต่เขาอาจลืมไปว่า ตอนที่เขาต กต่ำ คุณนั่นแหละ เคียงข้างเขา
ความเกลี ยดของเขา ก็อยู่บนมาตรฐานของเขา
มันก็เกี่ยวกับสิ่งที่เขาสั่งสมมาว่า สิ่งนี้ควรถูกเกลี ยด มันก็แค่นั้น มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณเสมอไป
หากคุณคิดว่าคุณผิดจริง ก็ปรับปรุงแก้ไข แต่หากคุณมั่นใจว่า คุณไม่ได้ทำอะไรผิด
คุณก็ไม่จำเป็นต้องเป็นท าสความเกลี ยดของใครก็ได้
“ไม่ว่าใครจะหาเหตุผลมาเกลี ยดคุณแค่ไหน คุณอย่ าหมดความรักในตัวเองก็พอ”
กอดทุ กความสุข ความทุ กข์ ทุ กสภาวะของใจให้ได้
กอดตัวเองให้ได้ทุ กด้าน แม้บางด้านจะไม่เป็นดั่งใจ
ทำได้เมื่อไหร่ นี่แหละ การรักตัวเองแบบเป็นธรรมชาติ
แล้วคุณจะเผื่อความรักอันไร้เงื่อนไข ไปสู่ใครอีกมากมาย
เมื่อถึงจุดนั้น ใครจะรักไม่รักคุณ คุณก็รักและปรารถนาดีกับเขาได้
เพราะคุณรักตัวเองมากพอ จะรักทุ กสิ่งได้ โดยไม่มีเครื่องกีดกันใด ๆ เลย
ขอบคุณที่มา : na-aan