เรื่องที่ 1
ห นู ตัวหนึ่งต กลงไปในถังข้าวส าร แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ มันดีใจมากมันคิดว่ามันโ ชคดี
มันจึงกินขาวส ารนั้นอย่ างอิ่มหมีพีมัน กินแล้วก็นอน
นอนแล้วก็กิน เป็นอยู่อย่ างนี้หลายวัน…วันแห่งความสุขมักผ่ านไปอย่ างรวดเร็วเสมอ
วันหนึ่งตอนที่มันกินจนเห็นพื้นของถังข้าวส าร มันฉุกใจคิด
แต่ข้าวส ารในถังก็เป็นสิ่งที่ยั่ วยวนเหลือเกิน มันกินจนข้าวส ารในถังหมดไปถึงตอนนี้มันถึงรู้ว่า
การปีนออกจากถังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
สอนให้รู้ว่า : การใช้ชีวิตของเราดูเหมือนปกติธรรมดา แต่แท้ที่จริงแล้วมันเต็มไปด้วยกับดัก
และหลุมพลางที่แสนอั น ต ร า ย
เรื่องที่ 2
ภรรย ากำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว สามีคอยกำกับอยู่ข้าง ๆ “คนเบา ๆ ช้า ๆ หน่อยระวั งหน่อยสิ
ไฟ แรงไป เร็ว ๆ รีบพลิกปลาได้แล้ว ตั กออกมาสิ น้ำมันเยอะไปนะ คีบเต้าหู้วางให้ตรง ๆ สิ”
“นี่คุณ” ภรรย าทนไม่ไหว “ฉันทำกับข้าวเป็น พูดอยู่ได้”
“ที่รัก ผมรู้ว่าคุณทำเป็น” ผู้เป็นสามีบอกออกไป
“ผมเพียงอย ากให้คุณรู้ว่า เวลาที่ผมขับรถแล้วคุณคอยบอกให้ผมเบรกให้ผมเร็ว ให้ผมระวั ง
ให้ผมแซงนะ ผมรู้สึกยังไง”
สอนให้รู้ว่า : การเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องย ากเพียงแค่คุณยินดียืนอยู่ในจุดยืน
ของฝ่ายตรงข้ามก็แค่นั้นเอง
เรื่องที่ 3
วันที่1 กระต่ า ย ออกไปต กปลา กลับมาตัวเปล่าไม่ได้ปลากลับมาเลย
วันที่2 กระ ต่ า ย ไปต กปลาอีก แต่ก็กลับมาตัวเปล่าเหมือนเมื่อวาน
วันที่3 เมื่อกระ ต่ า ย ไปถึงบ่อปลา ปลาตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นจากน้ำและตะโกนพูดขึ้นว่า…
“ถ้านายยังเอาแครอทมาเป็นเหยื่ออีก ฉันจะกระโดดขึ้นจากน้ำมาตบแกให้ ต า ย เลยเชียว”
สอนให้รู้ว่า : คุณให้ในสิ่งที่คุณชอบแ ก่คนอื่น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายตรงข้าม ต้องการ
อุทิศให้ในแบบโลกของคุณ มันไม่มีค่า
เรื่องที่ 4
มีเสืออยู่สองตัว ตัวหนึ่งอยู่ในกรง อีกตัวหนึ่งอยู่ในป่า มันต่างคิดว่าที่ที่มันอยู่นั้นไม่น่าอยู่เลย
ต่างก็อิ จฉาการดำเนินชีวิตของซึ่งกัน วันหนึ่งพวกมันจึงแลกที่อยู่กัน
ต่างก็มีความสุขกับสภาพแวดล้อมใหม่ ต่อมาไม่นาน เสือทั้งสองตัวก็ ต า ย ตัวหนึ่งอด ต า ย
อยู่ในป่า อีกตัวหนึ่ง ต า ย เพราะซึมเศร้าอยู่ในกรง
สอนให้รู้ว่า : บางครั้ง เราไม่ถนอมวาสนาที่เรากำลังได้รับอยู่ แต่เรามักอิ จฉาในวาสนาของคนอื่น
แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณมีนั่นแหละคือสิ่งที่คนอื่นอิ จฉา
เรื่องที่ 5
“หากเพื่อน ๆ เลือกฉัน อีกสิบปีข้างหน้า เพื่อน ๆ สามารถอ วดกับลูก ๆ และสามีได้ว่า..
ในปีที่แม่เรียนอยู่ แม่สวยกว่าดาวของคณะ”เมื่อถึงเวลาเลือกดาวคณะ ปรากฏว่าเธอชนะ
สอนให้รู้ว่า : การจะพูดให้คนอื่นยอมรับคุณ ไม่ต้องบอกในความพิเศษและโดดเด่นของคุณ
แต่จงทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเพราะคุณ พวกเขาจึงมีความพิเศษและโดดเด่นขึ้น
เรื่องที่ 6
ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง มาร์ก ทเวน นั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้หญิงคนหนึ่ง
เขาพูดไปตามมารย าทว่า… “คุณสวยจริง ๆ ครับ”
ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่รับน้ำใจ ไม่แม้แต่จะกล่าวคำว่าขอบคุณ เธอพูดออกไปอย่ างยโสว่า…
“น่าเสี ยใจ ฉันไม่อาจชมว่าคุณหล่อเหมือนที่คุณชมว่าฉันสวยได้”
มาร์ก ทเวน พูดออกไปอย่ างสุภาพว่า…“ไม่เป็นไรครับ แต่คุณควรฝืนใจฝึกพูดโกหกเหมือนผมบ้างก็ได้นะครับ”
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกอับอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
สอนให้รู้ว่า : เมื่อคุณโยนหินออกไปข้างหน้า คนที่จะสะดุดมันล้ มไม่เป็นท่าก็คือ ตัวคุณนั่นเอง…
ขอบคุณที่มา : pankanan