พูดไปก็เท่านั้น เถียงไปก็ไม่ชนะ ถ้าวันหนึ่งเราต้องทำงานร่วมกับคนชอบ
เถียงข้าง ๆ คู ๆหรือเจอคนในชีวิตประจำวันที่มีเหตุต้องประทะคารม
กันจนไม่ได้ข้อสรุป การนิ่งเฉยปล่อยให้เขาพูดไปอาจจะเป็นวิ ธีการหนึ่งที่จบ
เรื่องนี้ได้ แต่ยังมีอีกหลายอย่ างที่จะช่วยดึงสติคุณให้กลับมาโดยไม่ต้องต่อความ
ต่อคารมให้ยืดย าว
1. โต้เถียงเรื่อง “ไอเดีย” ของตัวเอง
หากเถียงกันในเนื้ องาน อย่ าพูดเรื่องไอเดียของคนอื่นไม่ดีอย่ างนั้นไม่ดีอย่ างนี้
ให้วิจารณ์เฉพาะในส่วนของตัวเรา แต่โฟกัสที่หัวข้อการพูดคุยและโต้เถียงกัน
ในเรื่องที่เป็นประโยชน์จะดีกว่าเพราะบางครั้งการถกเถียงนั้นก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้
เห็นมุมมองของคนอื่น ที่มีต่อเรื่องเดียวกัน
2. หยุดเถียงแล้วหาหลักฐานมายัน
ถ้าคุยกันด้วยเหตุผลไม่ฟัง ก้อต้องโต้แย้งด้วยหลักฐาน ไม่ใช่จะเอาผิดหรือเปิดโปง
คนคนนั้นแต่เพราะหาข้อสรุปสุดท้ายไม่ได้สักที
จนต้องมีเอกส าร หลักฐานต่าง ๆ มายันอย่ างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่ย ากจะปฏิเสธ
เพราะฉะนั้นจงใช้หลักฐานที่เห็นได้ชัดและเชื่อถือได้เมื่อคุยกับเขา
3. อย่ าใช้คำว่า “คุณ”
ไม่ใช่เพราะไม่สุภาพ แต่การพูดในคนที่ระดับอายุเดียวกัน การใช้คำว่า “คุณ”
อาจเป้นการสร้างความแต กแยกเชิงความคิด แต่หากใช้คำว่า “เรา”
จะช่วยให้เกิดความรู้สึกเป็นกันเอง เป็นพวกเดียวกันได้มากขึ้น
4. รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะหยุด
หนทางที่ดีที่สุดในการโต้เถียงกับคนที่ไร้เหตุผล คือการ “หยุด” หลายครั้งคนเหล่านี้
มักหาเรื่องพูดเถียงเพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายชนะ หากคุณไม่ยอมหยุด
และพย าย ามหาเรื่องที่จะเอาชนะพวกเขาได้มากขึ้นนั่นเป็นสิ่ที่ชี้ชัดว่าคุณก็
ไม่ต่างอะไรกับคนไร้เหตุผลคนหนึ่งเท่านั้นเอง
บริบทของการเถียงกันแต กต่างกันไป ถ้าเป็นเรื่องงานแล้วเถียงเพื่อให้ได้ข้อสรุป
ที่ลงตัวเราก็ควรจะใช้ไอเดียเถียงกันให้จบในที่ประชุม
แต่ถ้าเถียงด้วยเรื่องส่วนตัวคุณก็ควรจะช่างน้ำหนักความเหมาะสมที่จะหยุด
หรือหาหลักฐานมายันให้คลี่คลายไปด้วยดีเท่านั้นเอง
ขอบคุณที่มา : kubkhao