1. หัวหน้างานที่ดีรู้จักคิดก่อนพูด พูดในสิ่งที่ดี สร้างสรรค์
คนทุ กคนมีปาก ที่จะพูดอะไร ก็ได้ตามใจเรา แต่หากเราเป็นผู้นำแล้วนั้น
การใช้ปากตามใจเราย่อมทำไม่ได้ครับ
เพราะหากตอนนั้นเรากำลังโมโหอยู่ แต่นำสิ่งที่ไม่ดีไปลงกับลูกน้อง
แบบนี้ลูกน้องที่ไหนก็คงไม่อย ากทำงานกับเรา จริงไหมครับ !!
ดังนั้น การใช้ปาก ต้องใช้ในทางที่ดี สร้างสรรค์ ใช้ในการบอกเล่า
ประสบการณ์ในการแนะนำ สอนงานต่อลูกน้อง
หากลูกน้องคนนั้นไม่สามารถทำงานนั้นได้ ใช้ในการชื่นชมลูกน้อง
ขอบคุณลูกน้อง ให้กำลังใจลูกน้องและให้คำแนะนำในการปรับปรุงตนเอง
เป็นต้น แบบนี้ดีกว่าเยอะครับ
2. หัวหน้างานที่ดีต้องหัดเป็นคนที่เปิดใจรับฟังสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
การคิดคนเดียวย่อมได้ เพียงมุมเดียว แต่หากเรายอมเปิดใจฟังคนละเล็กละน้อย
ข้อมูลในหัวเราย่อมมีมากขึ้นและนั่นย่อมทำให้เราได้ข้อมูลในการ
คิด วิเค ราะห์ แยกแยะ ก่อนตัดสินใจ คนที่เป็นหัวหน้างานต้องกล้าเปิดใจฟังสิ่งต่าง ๆ
จากคนรอบข้างเพื่อนำมาปรับใช้ ให้งานเดินหน้าต่อไป
ถึงแม้บางครั้งฟังแล้วไม่ใช้ในตอนนี้แต่ใครจะรู้ว่า อนาคตอาจมีโอกาสหยิบมาใช้
ก็ย่อมเป็นไปได้ อย่ างน้องการฟังก็ทำให้เรามีความรู้ที่มากหากความรู้นั้น เป็นประโยชน์
ยกเว้น ความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์ต้องพร้อมดีดทิ้งในทันที
3. หัวหน้างานที่ดีต้องสามารถลงมือทำให้ลูกน้องเห็นเป็นแบบอย่ าง ว่าเราสามารถทำได้
หากพูดอย่ างเดียว แต่ไม่ทำ ใครเขาจะเชื่อครับ เหมือนสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า 100 คำพูด
ไม่เท่ากับ 1 การกระทำผมว่าจริงนะครับพูด แล้ว ทำ ย่อมทำให้ลูกน้องเห็นเป็นตัวอย่ าง
เช่น หากเราเป็นคนที่มาทำงานสายเป็นนิจแบบนี้
จะกล่าวตักเตื อนลูกน้องที่มาสาย ก็ย่อมย ากครับที่ลูกน้องจะเชื่อเรามันเข้าตัวแต่หากเรามาเช้า
ทุ กวัน แบบนี้ลูกน้อง ก็คงเกรงใจ และไม่กล้ามาสาย หรือหากมาสายเราจะเรียกมาคุยเพื่อ
ปรับพฤติกรร ม
ลูกน้องคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่อง ที่ตะขิดตะขวงใจ เพราะเป็นหน้าที่ของเราซึ่งลูกน้องคนนั้น
คงไม่กล้าเถียง เพราะลูกพี่เป็นตัวอย่ างที่ดีในเรื่องที่ลูกน้องทำผิด พูด + ทำ ย่อมมีคุณค่าเสมอครับ
4. หัวหน้างานที่ดีต้องรักในงานที่ทำ พร้อมต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามา
คนที่เป็นหัวหน้างาน ต้องมีใจรักในงานที่ทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ
เพราะหากเรารักในงานที่ทำใจเราพร้อมยืดหยัดต่อสู้ให้งานนั้นประสบความสำเร็จ
ซึ่งเราย่อมต้องถ่ายทอดความคิดนี้สู่ลูกน้องเราเพราะหากลูกน้องเรามีใจรักในงานที่ทำทุ กคน
เขาย่อมเข้าใจและพร้อมต่อสู้ฝ่าฟั น ปัญหาไปด้วยกัน
5. หน้างานที่ดีต้องรู้จักยิ้มแย้มแจ่มใสต่อหน้าลูกน้องและคนอื่น ๆ ที่ร่วมงาน
คนบางคน อาจเป็นเสือยิ้มย ากโดยพฤติกรร ม แต่พฤติกรร ม
ก็ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอหากเราเข้าใจในบทบาทของการเป็นผู้นำ
เพราะการเป็นผู้นำ ต้องเป็นคนที่สามารถเข้าถึงได้ในทุ ก ๆ คนทุ ก ๆ ระดับ ไม่มีอีโก้
ดังนั้น สิ่งที่จะลดอีโก้ตนเองได้นั้น ต้องรู้จักเป็นคนที่สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใสอาจไม่ต้องถึงกับเป็นคนที่ตลก
แต่ต้องทำให้ลูกน้องสบายใจที่จะเข้ามาพูดคุย ปรึกษาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
เพราะเมื่อไหร่ ที่ลูกน้องกล้าที่จะเดินเข้ามาหา ผมเชื่อว่า
ปัญหาย่อมคลี่คลาย ไม่ทำให้ปัญหา มีผลกระทบต่อคน ๆ นั้น ในระยะย าวซึ่งหน้าที่ของคนเป็น
หัวหน้าก็ต้องพร้อมแก้ไข ปัญหาร่วมกันดังคำว่า มีสุข คูณ สอง แต่มีทุ กข์ต้อง หาร สอง ครับ
6. หัวหน้างานที่ดีต้องมีความคิดที่ดีทั้งเรื่องงาน เรื่องคน ทั้ง ต่อหน้าและลับหลัง
เริ่มต้นจาก “หัว” นั่นคือต้องมีความคิดที่ดีต่อคนรอบข้าง และรู้จักคิดก่อนพูด
ก่อนทำหากเรามีหัวที่คิดดี พูดดี ทำดี พฤติกรร ม เราย่อมสะท้อนด้านดี
เช่น การพูดชม หรือ ตำหนิก็ต้องคิดเพื่อใช้คำพูดให้เหมาะสม กับคนนั้น ๆ การพูดชม
ก็ควรพูดต่อหน้าลูกน้องคนอื่น ๆ
เพื่อให้เขาเห็นว่า หากเราทำดี หัวหน้าพร้อมชมเชยเสมอแต่ หากเป็นการตำหนิ
ก็ควรเรียกมาคุยเป็นการส่วนตัว มากกว่าตำหนิต่อหน้าคนอื่น ๆ ให้เขาเสี ยหน้า เป็นต้น
ขอบคุณที่มา : sabailey