1. คุณไม่ได้ทำงานเพื่อเงิ นแต่เพียงอย่ างเดียว
เงิ นเป็นเพียงปัจจัยหลักที่สามารถซื้อ “หลายสิ่ง”
ได้ แต่สำหรับมิตรภาพ, ความเก่งกาจ, ความฉลาด ฯลฯ
อะไรก็ตามที่เป็นนามธรรม ที่คุณได้รับจากองค์กรไปตั้งแต่วันแรก
และความรู้สึกในชีวิตส่วนตัวมันซื้อไม่ได้หรอก ถ้าคุณคิดว่าการทำงาน
มีเป้าหมายก็เพื่อเ งิน คิดแต่ว่าทำยังไงก็ได้เพื่อให้ได้เงิ นเยอะ ๆ
เช่น พ ย า ย า ม ทำโอทีมาก ๆ หรือไม่ก็เช้าชามเย็นชาม ทำงานไปงั้น ๆ
เพราะรู้ว่าเดี๋ยวเงิ นเดือนก็ออกเอง มันก็ไม่แปลกที่คุณจะรู้สึกว่าฝืน
ไม่มีความสุข ไม่มีความก้าวหน้า
ก็ในเมื่อคุณเลือกเองที่จะมีเป้าหมายของการทำงานไม่กี่อย่ าง คิดดูให้ดี
นอกจากเ งินเดือนคุณได้อะไร หวังอะไรจากที่ทำงานไปบ้าง? มิตรภาพ?
ความก้าวหน้า?ทักษะความสามารถ? ความสนุก? สังคม?
ยิ่งคิดให้กว้างเท่าไหร่ คุณจะยิ่งหายใจได้สะดวกขึ้น โล่งขึ้น รู้สึกได้ว่า
“การมาทำงานไม่ใช่เรื่องที่ต้องฝืนทน” มันต้องมีอะไรมากกว่าเงิ นสิ !
2. อย่ าเพิ่งเปลี่ยนเส้นทาง หากว่ายังไม่เต็มที่ในทางที่กำลังเดินอยู่
ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้รู้สึก อ ย า ก ลาออกหรือเปลี่ยนสายงาน
ลองทบทวนตัวเองอีกครั้งว่าที่ผ่ านมาได้ทำอะไรอย่ างเต็มความสามารถ
แล้วหรือยัง
หรือที่จะลาออกนั้นเป็นเพียงเพราะอ ารมณ์ ชั่ ว วู บ เพียงเท่านั้น?
ถ้ายัง ลองเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ตั้งใจลุยอีกสักตั้ง
อย่ างน้อยมันก็ยังดีกว่าออกไปทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า “รู้งี้ ฉัน… ดีกว่า”
ซึ่งมันน่าเสี ยดาย น่า เ จ็ บ ใ จ กว่าเยอะนะ
3. เงิ นเดือนได้เท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ากับ “จ่ายไปเท่าไหร่”
เงิ นเดือนหลักแสนหลักหมื่นก็มีสิทธิจนได้ในพริบตา
หากยังไม่รู้จักประมาณตนไม่ลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่ายว่า
“ควรหรือไม่ควรจ่ายในเรื่องอะไร”
การบริหารรายรับรายจ่ายเท่านั้นที่จะบ่งบอกได้ว่าคนนั้นร วยจริงรึเปล่า
(มีเงิ นเก็บรึเปล่า?) ไม่ใช่ดูกันเพียงสเตทเม้นท์แต่เพียงผิวเผิน
4. ควรใช้เ งินเพื่อความสุขของปัจจุบันและอนาคต
หั กลบกลบห นี้รายเดือนแล้ว คุณควรให้รางวัลตัวเองเป็นอะไรก็ได้
เช่น ตั๋วหนัง, หนังสือ, ทริปต่างจังหวัด, การเข้าสังคม
เพื่อผ่อนคลายและพัฒนาตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
อย่ ากักขังตัวเองเพียงแค่การทำงานมาหั กลบค่าใช้จ่ายรายเดือนเพียง
อย่ างเดียวไม่อย่ างนั้นคุณจะรู้สึกว่างานที่ทำอยู่มันกดดันสูง
ไม่มีความสุข ท ร ม า นเพราะไม่รู้ว่าจะออกไปเลยดีมั้ย แต่กระนั้นก็ตาม
อย่ าลืมเจียดบางส่วนไว้เป็น “เงิ นออม” หรือ “เงิ นสำหรับอนาคต”
เพื่อไม่ให้ตัวเปล่าเล่าเปลือยเกินไป หากเกิดอะไร ฉุ ก เ ฉิ น ขึ้นในวันข้างหน้า
คุณจะได้ไม่ กิ น เ นื้ อ ตัวเองมาก อุ่นใจกับความเป็นอยู่ในปัจจุบันได้ดี
5. นอกจากเรื่องงาน เราไม่จำเป็นต้องแข่งเรื่องอื่นกับเพื่อนร่วมงาน
รสนิยมเป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ และไม่มีใครบอกด้วยว่าแบบไหนผิด
แบบไหนถูก เพราะความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน
อย่ าต กกับดั กสังคมด้วยวิ ธี “เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง”
คนอื่นอัพเกรดตัวเองยังไงก็ช่าง
กินหรูจ่ายแพงยังไงก็เรื่องของเขา เราจงพอใจในสิ่ง
ที่ตัวเองมีอยู่เป็นอันพอแล้ว
ขอบคุณที่มา : sabailey