1. มุ่งมั่นในหน้าที่ของตัวเอง
การเปลี่ยนจุดหมายในการทำงาน แทนที่จะพัฒนางานของตนเองให้ดีขึ้น
ไปหาคนที่อิ จฉาหรือจ้องจะทำไม่ดีกับคุณอยู่นั้น
ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำคุณควรเอาเวลาในออฟฟิศไปมุ่งมั่นพัฒนางานของตนเอง
ให้ดียิ่งขึ้นศึกษาความต้องการขององค์กร เป้าหมายของหัวหน้างาน ฯลฯ
แล้วปรับปรุงการทำงานของตนเองให้เป็นไปในทิศทางนั้น ๆเพื่อที่ว่าอย่ างน้อย
เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็จะได้ไม่สามารถทำลายหรือพูดถึงคุณในแง่ไม่ดีได้นั่นเอง
2. กันไว้ดีกว่าแก้
การป้องกันการเกิดความอิ จฉาในห มู่เพื่อนร่วมงาน อาจทำได้หลายแบบ
เช่น การกล่าวชื่นชมทุ ก ๆ คนที่มีส่วนต่อความสำเร็จในงาน
(เพื่อนร่วมงานบางคนอาจหาความมีส่วนร่วมไม่เจอ แต่ก็ขอให้พย าย ามนึกให้ออก)
แม้จะเล็กน้อย แต่การกล่าวชมออกไป
เผื่อแผ่ความดีความชอบออกไปจะทำให้คุณไม่ต กเป็นเป้าจากคนขี้อิ จฉาเหล่านั้น
อีกทั้งยังทำให้คนที่ได้รับคำชมหรือการพูดถึงจากคุณไม่รู้สึกอิ จฉาคุณด้วย
3. สร้างความน่าเชื่อถือในห มู่เพื่อนร่วมงาน
ไ่ม่มีอะไรสามารถสร้างแรงหนุน ให้กับคุณและผลักคำกล่าวหาร้ าย ๆ ออกไปได้เร็ว
เท่ากับการได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างหากคุณได้รับการยอมรับ
จากทีมหรือคนอื่น ๆที่มีความเชื่อมั่นในตัวของคุณพวกเขาจะไม่สนใจคำว่าร้ าย
นินทาจากคนที่อิ จฉาคุณแต่ประการใดและจะทำให้คนที่อิ จฉาคุณอยู่นั้นต้องยอม
จากไปแต่โดยดี
4. หากปัญหารุนแ รงเข้าพบหัวหน้าย่อมดีที่สุด
ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเข้าไป ร้องไห้ฟูมฟาย ขณะเล่าให้ผู้จัดการ
หรือหัวหน้าของคุณฟัง เพราะมันจะดูเหมือนเด็ ก
ถูกเพื่อนแกล้งแล้วเข้าไปฟ้องครูถ้าจะเข้าพบหัวหน้าเพื่อแจ้งถึงปัญหา
ดังกล่าวให้รับรู้ การวางตัวให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งจำเป็น
เช่น เอ่ยถึงปัญหาและความวิต กกังวลของคุณ ขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัว
กับปัญหาดังกล่าว เรียกว่าทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า
5. กระตุ้นให้มีการทำงานเป็นทีม
เพราะการทำงาน เป็นทีมจะสำเร็จได้ ทุ กคนต้องหันมาร่วมมือกัน ซึ่งการทำเช่นนั้น
ก็อาจทำให้คุณและคนที่อิ จฉาคุณ
ได้มีโอกาสศึกษานิสัยใจคอกันมากขึ้นกว่าเดิมเข้าใจกันมากกว่าเดิม
นำไปสู่การเลิก อคติหรือมองกันในแง่ร้ ายได้
6. หยิบยื่นความเป็นมิตร
แม้ว่าคุณอาจได้ยินหรือพอจะรู้สึกได้ ว่ามีคนบางคน แอบอิ จฉาคุณอยู่แต่การ
เดินหน้าเข้าไปลุ หรือเข้าไปจัดการกับคู่กรณีอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก
หากทำได้ลองมีน้ำใจทำสิ่งดี ๆ กับเขาคนนั้นก่อนจะดีกว่าเช่น พูดกับเขา ดี ๆ
หรือมีขนมก็แบ่งกัน การลองทำสิ่งดี ๆ แ ก่กัน อาจช่วยเปิดโอกาสให้คุณ
และเขาคนนั้นได้รู้จักกันดียิ่งขึ้น และทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนไปในทาง
ที่ดีได้ค่ะแต่ถ้าหากลองทำแล้วยังไม่เป็นผลก็อย่ านำเรื่องนี้
มาเก็บเป็นอ ารมณ์ให้กังวลใจไปเลยเพราะคนเราก็มีได้หลายมุมหลายความรู้สึก
เราไม่อาจทำให้ทุ กคนรู้สึกดีกับเราได้ทั้งหมดหรือถ้าสบโอกาส
ลองสังเกตดูก็ได้ว่าเขาคนนั้น ทำนิสัยเดียวกัน กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ หรือไม่
ถ้าทำก็เป็นไปได้ว่า นั่นคือตัวตนของเขาและไม่ได้มีแต่คุณที่เจอเขาอิ จฉาใส่
7. เข้มแข็งเข้าไว้
บางคนกว่าจะทราบว่ามีคนอิ จฉาหรือลอบใส่ความ ก็มาสังเกตได้เมื่อสายไปเสี ยแล้ว
เช่น เพื่อนร่วมงานทั้งออฟฟิศ ต่างได้รับข้อมูลเท็จ
เกี่ยวกับตัวคุณจากคน ๆ นั้นและไม่มีใครอย ากคบหาสมาคมกับคุณอีก ถ้าเป็นเช่นนี้
ขอให้เข้มแข็งเข้าไว้ ยืด อกเชิดหน้า ให้มั่น(จะแอบร้องไห้ก็ได้ ถ้าร้องเสร็จแล้วตาไม่แดง)
เพราะถ้าคุณไปแอบร้องไห้ หรือทำตาแดง ๆก็เท่ากับเข้าล็อกตามที่เขาต้องการ
แล้วเขาก็จะจัด “ปฏิบัติการลอบเมาท์” ตามมาอีกชุดใหญ่
ขอบคุณที่มา : wansukth