Home ข้อคิด นิสัย ที่ไม่ควรทำ ถ้าไม่ อ ย า ก เป็นผู้หญิง น่ า เ บื่ อ

นิสัย ที่ไม่ควรทำ ถ้าไม่ อ ย า ก เป็นผู้หญิง น่ า เ บื่ อ

18 second read
ปิดความเห็น บน นิสัย ที่ไม่ควรทำ ถ้าไม่ อ ย า ก เป็นผู้หญิง น่ า เ บื่ อ
0
847

1. ขบกั ดสะบัดเขี้ยว

มีนิสัยชอบจับผิดคนอื่น แล้วก็วิพากษ์วิ จารณ์ออกมาตรง ๆ

หรือเก็บเอาไปนินทาลับหลัง

 

ถึงแม้ว่าคุณจะรู้จริงแล้วอดวิ จารณ์ออกมามาได้

หรือว่าวิ จารณ์เพราะคุณขี้อิ จฉามีป มด้อยให้ใครดีใครเด่นไม่ได้

 

ต้องหาเหตุมาตำหนิติเตียนจนได้ แน่ล่ะ! คนที่ฟังคุณอยู่ก็ย่อ ม

เอิ๊กอ๊ากสะอกสะใจไปด้วย

 

แต่แล้วพวกที่ฟังนั้นแหละจะค่อย ๆ ขย าดปากคุณ

ไม่อย ากจะคบด้วยเพราะเกรงว่าจะถูกคุณเก็บไปเป็นเห ยื่อลับหลังไงคะ

 

2. เคร่งเ ค รี ย ดซีเรียสจัด

ขอให้เชื่อเถอะว่าคนที่มีอ ารมณ์ขันสามารถทำให้คนอื่นหัวเราะไปได้น่ะ

ใคร ๆ ก็อย ากเข้าวง แล้วคุณล่ะเคยเล่าเรื่องสนุก ๆ

 

กุ๊กกิ๊กให้เพื่อนคิกคักบ้ างหรือเปล่าก็ไม่ต้องถึงกับขำก๊ากเป็นตลกคาเฟ่หรอก

แค่ให้ยิ้มหัวกันได้ก็เป็นเส น่ห์แล้ว

 

แต่ถ้าอยู่ในที่ทำงาน คุณก็หน้าเ ค รี ย ดวางท่าเอางานเอาการซะเต็มประดา

พอเลิกงานคุณก็ยังวางหน้าอย่ างนั้นอีก เฉยชามึนตึง

 

ไม่รู้ที่เล่นทีจริงใครทักก็พูดด้วยอย่ างแกน ๆ ไม่มีมนุษย์สัม พันธ์ ฯลฯ

ลองเป็นแบบนี้ก็ไม่นานหรอกใคร ๆ จะตีกรรเชียงออกห่างจากคุณ

เพราะหาความรื่นรมย์ไม่เจอเลยสักกระติ๊ด…เซ็งค่ะ

 

3. ช่างติแถมขี้บ่น

นี่ก็เป็นคนอีกประเภทหนึ่งที่ ทำ ล า ยเส น่ห์ของตัวเองให้เ หื อ ดหาย

ไปได้อย่ างชะงัดดีนักซึ่งโ ทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง

เพราะไม่มีใครเขาจ้างวานใช้เลยสักนิกเดียว

 

แต่เกิดขึ้นเพราะตัวเราเอง “จิ ตไม่ว่าง” แถม “ผ ีเจาะปาก” มาให้พูด

คนประเภทนี้เห็นอะไรนิดหน่อยก็สามารถติได้เป็นคุ้งเป็นแคว

 

เรียกว่าอะไรผ่ านเข้ามาในสายเป็นจับมาเป็นข้อติฉินได้หมด

จะมีมูลความจริงหรือเปล่า สมเหตุสมผลหรือไม่ ไม่สนใจ

 

ขอให้ได้ติได้ประเมินค่าในขั้นต่ำหรือในแง่ลบไว้ก่อนเป็นพอใจ

อีกพวกหนึ่งเป็นพวกที่ไม่ติอะไรตรง ๆ หรือรุ่นแรง แต่ชอบบ่น

 

บ่นได้ส า รพัดเรื่อง ขี้ ห มู ร า ขี้ ห ม า แ ห้ ง ฝนต กก็บ่นหยุดก็บ่นอีก

เช่น เดินเข้าไปในกลุ่มเพื่อน ๆ ที่เขากำลังคุยกันเพลิน ๆ

 

เรื่องอะไรอยู่ก็ไม่สนใจแล้วเปิดปากบ่นเรื่องรถติ ดทำให้มาช้าเป็นวรรคเป็นเ วร

แล้วก็บ่นต่อเรื่องแอร์ในห้องทำไมไม่ค่อยเย็น… โอ๊ย!

 

ส า รพัดจะหยิบยกขึ้น มาบ่น แล้วเพื่อนหน้าไหนล่ะคะจะทนฟัง

คนอย่ างนี้แหละที่เพื่อนจะหายหน้าไปทีละคนสองคนจนหมดเพื่อน

 

ถ้ามีสามี…สามีอาจจะขอปลีกวิเวกไปนั่งวิปัสสนาในคาราโอเกะก็ได้

สบายหูกว่าฟังเสี ยงบ่นเยอะเลย

 

4. ชอบจุ้นจ้านสั่งสอน

พวกนี้น่าจะไปเป็นอาจารย์แนะแนวหรือคุมห้องปฎิบัติการซะให้รู้แล้วรู้รอด

เพราะไปที่ไหนก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำสั่งสอนเช่น ไปบ้ านเพื่อนก็เล็งแลไปทั่วห้องรับแขก

 

แล้วก็แนะเชียวว่าม่านหน้าต่างไม่เหมาะยังไง โต๊ะรับแขกตั้งมุมนี้ไม่เหมาะ

ตู้โชว์ใบนั้นก็ไม่เข้ากับเครื่องลายครามที่อยู่ในตู้ ฯลฯ ต้องยังงั้นยังงี้ถึงจะถูกต้อง

 

บางทีแนะไปถึงเรื่องอาชีพของสามี เพื่อน และการเรียนของลูกเพื่อนด้วยกันอีกแน่ะ

ว่าควรทำไ อ้โน่นจะรว ยเร็วกว่า หรือว่าเรียนไ อ้นี่จะหางานทำง่ายกว่า

 

ชะดีชะร้า ยกับสั่งสอนเพื่อนผู้เป็นเจ้าของบ้ านว่า เธอต้องอ้ ว นกว่านี้

อีกนิดหรือผอ มกว่านี้อีกสักหน่อย

 

ไม่งั้นฝาละมีเธอไป มีเมียน้อยแน่ ๆ เฮ้อ…อีแบบนี้ใครอย ากจะเปิดประตู

ต้อนรับในคราวต่อไปอีกละคะ…ถามตรง ๆ เถอะ

 

5. ถ้าคุณยังทำอย่ างนี้กับหลาย ๆ คน

อีกหน่อยคุณก็จะกลายเป็นคนที่ถูกเมินเหมือนกัน

ในเมื่อคุณไม่เห็นความสำคัญของคนอื่นได้

 

คนอื่นเขาก็คิดและทำอย่ างคุณเป็นเหมือนกัน…

เกลือจิ้มเกลือว่างั้นเถอะ

 

6. ไม่เห็นความสำคัญของใคร

คติเก่า ๆ ที่ยังขลังอยู่เสมอคือ ถ้าอย ากให้เขารักคุณ คุณก็ต้องรักเขาก่อน

เป็นจิ ตวิทย าขั้นพื้นฐานเลยทีเดียว…หากคุณต้องการเป็นที่รักของใคร

 

คุณก็ต้องรู้จักเป็นผู้ฟังที่ดีในขณะที่เขาพูด แสดงความสนใจในสิ่งที่เขาพูดเล่า

ถ้าเสริมคำถามที่เหมาะเจาะได้ด้วยยิ่งดี

 

แต่ถ้าขณะที่เขาพูดอยู่นั่นคุณทำเป็นเมินเฉย

ไม่ใส่ใจที่จะฟังหรือเมิน มองไปทางอื่น

 

ทำเหมือนกับว่าที่เขาพูดอยู่นั้นเป็นเสี ยงนกแก้วนกขุนท อง

ไม่เห็นจะน่าสนใจเลย

 

ขอบคุณที่มา : yimlamun

Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คำกล่าวเปิดงาน ใช้บ่อย เก็บไว้ฝึกให้ พูดคล่อง ๆ

1. งานเลี้ยงส่ง เรียน ท่าน (ประธานจัดงาน) และแขกผู้มีเก … …