1. ให้ความสำคัญกับอิสรภาพ ทางการเงิ นมากกว่า สถานะทางสังคม“
“เจ้าของเงิ นล้าน”ตัวจริงชอบ ใช้ชีวิตแบบชนชั้นกลาง อยู่ในบ้านขนาด พอสบาย
ขับรถ ยี่ห้อทั่ว ๆ ไปที่ใช้งานได้ดี พวกเขาไม่ชอบแข่งขัน
เอาหน้า กับใคร จึงไม่ต้องมีห นี้ ก้อนใหญ่ไว้ คอยฉุดดึงชีวิตวันก่อนได้ไปร่วมบรรย าย
เรื่องการวางแผนการเงิ นพบว่า สาเหตุหนึ่ง ของการมีห นี้เยอะ
คือ การชอบเปรียบเทียบ กับชาวบ้านเห็นข้างบ้าน มีอะไรแล้ว ต้องมีมากกว่าดีกว่า
ไม่รู้แข่งขันไป ได้ประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายคนที่ h ap p y คือ
คนขายของส่วนคนที่ทุ กข์ คือตัวเราเอง
2. ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไป กับการวางแผนสร้างตัว
“เจ้าของเงิ นล้าน” มักใช้เวลา เฉลี่ยวันละ 8 ชั่ วโมงกับการวาง แผนชีวิตขณะที่คนทั่วไป
ใช้เวลาคิดแต่เรื่องหาความสุข หลายคนเมื่อ พูดถึงเรื่อง
การวางแผน การเงิ นมัก จะบอกว่า ไม่มีเวลาทั้งที่จริง ๆ แล้วใช้เวลาน้อ ยมากไม่กี่นาที
ในแต่ละวัน แต่กลับมีเวลาเดินตลาด เพื่อใช้จ่ายเ งิน
วันละกว่าชั่ วโมง คนทั่วไปมองการเริ่มธุรกิจส่วนตัวว่า เป็นความเสี่ ยง แต่คนร วย
(และคนที่มีโอกาสร วย)จะมองเป็นเส้นทางสู่ ฐานะที่ มั่งคั่ง
–คนทั่วไป มองเ งินมองด้วย สมการเส้น ตรงเช่นสมมติทำงานได้ชั่ วโมงละ $X
ถ้ายอมทำงาน เยอะขึ้น ก็จะได้เงิ นมากขึ้น แม้แต่ผู้ที่มีการศึกษาดีก็คิดว่าการเรียน
MBA จะช่วย ให้ได้เงิ นมากขึ้น
(ก็จริงแต่ก็เป็นการมองแบบเส้นตรง เช่นกันคือให้เวลา กับ การเรียนเพื่อ
สุดท้ายจะเอาวุฒิไป ต่อรองรายได้ ให้มากขึ้น ) ส่วนคนร วย
จะมองที่ไอเดียโดยเฉพาะไอเดียที่จะช่วยแก้ปัญหา
(และตอบโจทย์ความต้องการ) ของผู้คนได้
และทำเงิ นจากเรื่องเหล่านี้…แต่ถึงกระนั้นคนร วยก็ไม่ได้กระโดดเข้าใส่ ไอเดีย
อย่ างไม่ลืมหูลืมหาเขา จะศึกษาความเสี่ ยง อย่ างดีก่อน ที่จะลงมือทำ
3. ใช้จ่ายอย่ างมีเหตุผล
คนส่วนใหญ่ถึงทำงานหนักกระเป๋าหนัก แต่มักใช้จ่ายหนัก ด้วยจึงร วยไม่สำเร็จ
ตรงกันข้ามกับ” เจ้าของเงิ นล้าน”
ที่ทั้งทำงานหนักกระเป๋าหนัก แต่คิดหนักด้วย เมื่อใช้จ่ายเปรียบ คนทั่วไป
เป็นนักฟุต บอลกองหน้าที่มุ่งแต่จะทำเกมจนเสี ยประตู
แต่คนร วยพวกนี้ ให้ความสำคัญ กับการรั กษาประตูเท่า ๆ กับ การทำเกมคนทั่วไปใ
ช้ชีวิตเกินฐานะ ที่แท้จริง แต่คนร วยใช้ชีวิต ต่ำกว่าฐานะ
ถึงจะมีคนร วยมาก ๆ บางราย ที่แสดงการใช้ชีวิตอย่ างสุด หรูแต่คนร วย โดยทั่วไป
ใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่แท้จริง… คนร วยส่วนใหญ่
(แต่ไม่ใช่ทั้งหมด–เพราะเราจะเห็นแต่ชีวิต ของคนร วย บางส่วนที่เขาแสดง ให้เห็นต่อสาธารณะ
ส่วนคนร วย ที่ร วยเงียบ ๆ เราก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นแต่ไม่ใช่ไม่มีอยู่)
จะไม่ไหลไป ตามกระแสวูบวาบพวกเ ขาต้องการอิสระทางการเ งิน และจะไม่เป็นทาส
ของสิ่งต่าง ๆ พย าย ามทำตัวเองเป็นนักลงทุนสามารถทำได้
แม้จะเป็นพนักงาน ประจำ แต่ต้องฉลาด ในการเลือกลงทุนตอนนี้มีหลายคนที่ทำงาน
ประจำไปด้วยแต่ลงทุนในหุ้นไปด้วยซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมที่ดี
แต่การลงทุนทุ กอย่ างมีความเสี่ ยงหมด ดังนั้น ก่อนที่จะลงทุน ไม่ว่าจะเป็น การลงทุน
ประเภทใดต้องศึกษาให้ชัดเจน ไม่อย่ างนั้น จากที่จะได้เงิ นงอกเงยขึ้น มาเงิ นนั้น
อาจจะหายวับไป กับตาก็ได้
4. มุ่งสร้างตัวด้วยสองมือเปล่า ไม่สนใจ มรดก หรือ การสนับสนุน จากพ่อแม่
80% ของ “เจ้าของเงิ นล้าน” สร้างเงิ นล้านด้วยมือ เขาเองล้วน ๆ น้อ ยคน
ที่จะพี่งพาพ่อแม่หรือ เฝ้ารอมรดกยิ่งเริ่มต้นจ ากมือเปล่า
พวกเขา ก็ยิ่งแกร่งเจ้าของเงิ นล้านส่วนใหญ่ สามารถยืนได้ บนลำแข้งของตัวเอง
ตั้งแต่อายุยังน้อย
5. เลือกอาชีพที่“ใช่”
“เจ้าของเงิ นล้าน” อาจมีอาชีพ หลากหลาย แต่สำคัญมันต้องเป็นอาชีพที่ “ใช่”
สำหรับเขาเท่านั้นจริงอยู่ที่ ผู้ประกอบการ มีโอกาสเป็น “เจ้าของเ งินล้าน”
เร็วกว่าคนทั่วไป 4 เท่า แต่กระนั้นก็ไม่พบว่า มีธุรกิจประเภทหนึ่ง ประเภทใด
ที่จะประสบ ความสำเร็จมาก กว่าประเภทอื่น ๆ
สรุปว่าความร่ำร วยมาจากลักษณะนิสัย ของพวกเขามากกว่าประเภทธุรกิจ ที่เลือกทำซึ่ง
ข้อนี้ ต่างจากที่พวกเราชอบทำกัน คือเลือกอาชีพ ที่นิยมมากกว่า
อาชีพที่ใช่ อย่ าง เช่น ช่วงร้านกาแฟบูม ก็แห่กัน เปิดร้านกาแฟจนเต็มไปหมด
ในที่สุด หลาย ๆ ร้านก็ต้องพับกระเป๋า กลับบ้าน ข าดทุนกันไป
ขอบคุณที่มา : kaeyim