1. บันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงประจำวัน
ยังมีค่าใช้จ่ายอีกอย่ างที่ต้องบันทึกผมเรียกมันว่าค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง
เพื่อเข้าสังคมบ้างหละ เช่น งานเลี้ยง, ค่าของขวัญ,
ค่าซองงานแต่งงานบวช, ดูหนัง, ฟังเพลง, เลี้ยงสาว, ลุ้นหวยฯ
เหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงทั้งนั้นครับต้องบันทึก
และประมาณการไว้ด้วยครับ
2. บันทึกค่าใช้จ่ายประจำวัน
เมื่อรู้รายได้แล้วสิ่งสำคัญก็คือรายจ่ายบันทึกค่าใช้จ่ายประจำวันครับค่าอาหาร,
ค่าเช่าที่พัก, ค่าเดินทาง, ค่ารถ, ค่าบัตรเครดิต,ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ของใช้, ภาษีฯ
บันทึกมันลงมาครับว่าในแต่ละวันแต่ละเดือนเป็นเท่าไหร่
3. คัดค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงออก
ได้เวลาตัดค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงออกครับเป็นการตัดทิ้ง“เนื้ อร้ าย”
ทางรายจ่ายครับอะไรตัดได้ตัด ค่าเหล้ า, ค่าเบียร์, บุห รี่, หวยฯ
ส่วนนี้ตัดออกก่อนเลยครับแล้วดูสิว่าหากตัดส่วนนี้ไป รายจ่ายเราลดลงไป
เท่าไหร่นั่นเท่ากับว่าเรามีเงิ นเหลือเป็นทุนได้เท่านั้น
4. รวมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเพื่อความบันเทิง
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนและปีประมาณการแล้วเท่าไหร่คราวนี้เรา
ก็จะได้รู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งปีที่เกิดขึ้นมันจะเป็นเท่าไหร่ที่เหลือก็แค่
บริหารจัดการ
5. ประมาณการและติ ดตามรายรับพิเศษตลอดทั้งปี
คราวนี้มาดูรายได้พิเศษที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ค่าคอมมิชชั่นค่าโบนัสหรือรายได้
พิเศษอื่น ๆ ลองบันทึกเป็นตัวเลขไว้ครับ
แยกออกจากรายได้ประจำนะครับเงิ นส่วนนี้อย่ างน้อยมันก็สะสมนำมาเป็น
เงิ นทุนได้หากเราไม่ใช้จ่ายเลือกที่จะเก็บออม
6. ดูรายรับของเราแต่ละเดือน
ดูก่อนเลยครับเงิ นเดือนเราแต่ละเดือนเป็นเท่าไหร่ให้เราคำนวนว่า1 ปีเรามีเงิ น
รายได้ทั้งหมดเท่าไหร่จะได้ดูเป็นเงิ นก้อนมีกำลังใจ
ว่าเราก็สามารถทำเงิ นในแต่ละปีได้ไม่น้อยทีเดียว เช่น เงิ นเดือน 15,000 บาท
เท่ากับว่า 1 ปี เรามีรายได้ทั้งหมด 180,000 บาทเลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา : meokayna