ปัญหาหย่ าร้าง ในวันนี้…การนอกใจ มักเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ บางคนใช้ความอดทน
แลกคนหลายใจให้กลับมาบ้างตัดปัญหา เจ็ บแล้วจบ ดีกว่าคบไประแวงไป
และมีอีกมากมายที่ยอมแลกความสุขแบบน้อยนิด
โดยเอาทุ กข์ ทั้งชีวิตเข้าไปแลก หลอกตัวเองไปวัน ๆ ว่า ความดีจะชนะทุ กสิ่ง
ที่จริงกว่าก็คือ ทำดีได้ดีแต่บางทีอาจไม่ได้หัวใจ อย่ ารักเขามากไปจนไม่สนใจ
ความสุขของตัวเอง
การนอกใจเกิดจากการที่คนคนหนึ่งอ่อนแอเกินกว่าจะรั กษาสัจจะต่อคนที่ตนรักได้
ข าดเขาเราอยู่ได้ยิ่งเป็นคุณแม่ ยิ่งรู้สึกแ ย่กว่าหลายเท่า ถ้ามีแต่เรา
คงเดินออกจากชีวิตเขาง่ายกว่านี้
แต่พอมีลูก ทุ กความผูกพันทำให้ตัดสินใจย ากกว่า แต่ถ้าน้องว่ามันถึงเวลา
ทุ กการตัดสินใจคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ ตอนนี้กอดลูกให้แน่น
เป็นสองเท่ากอดแทนพ่อของเขา ด้วย
ต่อให้เสี ยใจแค่ไหน ขอให้สู้ไหวนะคะตั้งเวลาให้ความอ่อนแอของตัวเอง
แล้วกลับมาแข็งแกร่งเพื่อเสริมแรงให้ลูกด้วย
สาเหตุที่สถาบันครอบครัว มีปัญหาแต กแยกหย่ าร้างสูง
เนื่องมาจากข าดคุณสมบัติหลักๆ 4 ข้อด้วยกัน
1. ข าดการเข้าใจในการสื่อส ารระหว่างกันและกัน
เมื่อปัญหา ไม่ยอมเจรจาสันติภาพใช้วิ ธีนิ่ง ใช้วิ ธีนินทา ใช้วิ ธีสร้างโลกของตัวเอง
ซ้อนขึ้นมาในโลกของครอบครัวเมื่อไม่สื่อส ารกัน ปัญหาก็ยังคงเป็นปัญหา
สุดท้ายเมื่อเหตุ การณ์รุ นแรงถึงที่สุดก็ต้องเลิกรากันไป หลายคนที่เลิกร้างกันไป
ไม่ใช่หมายความว่าไม่รักกันแต่ข าดการเจรจาหรือข าดการสื่อส ารที่ดีระหว่างกัน
2. ข าดความซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน
ในช่วงแรกรักต่างก็รักและภักดีต่อกัน พอมาเป็นสถาบันครอบครัวความรักนั้นจืดจางลงไป
ตามวันเวลา ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องซ่อนเร้นระหว่างกัน
แทนที่จะรักเดียวใจเดียวก็เป็นรักคนเดียว แต่ว่ามีคนอื่นสำรองเอาไว้ มนุษย์เรานั้นทันทีที่
ไม่ซื่อสัตย์ต่อกันเค้าลางร้ ายมันก็เริ่มต้นแล้ว
3. ข าดความอดทนที่จะร่วมสุขร่วมทุ กข์ด้วยกัน
พอแต่งงานอยู่กินด้วยกัน แล้วมีปัญหาชีวิตคู่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากสาเหตุใดก็ตาม
อยู่ร่วมกันแล้วมีแต่ความทุ กข์มีแต่ปัญหามีแต่ความยุ่งเหยิงวุ่นวายใจ
ซึ่งในขณะที่ใช้ชีวิตโสดไม่เป็นอย่ างนั้นก็เริ่มรับไม่ได้ พอรับไม่ได้แล้วสั่งสมหมักหมมมากเข้า
ก็เกินขีดอดทน สุดท้ายก็เลิกร้างห่างเหินกันไป ต่างคนต่างไปทางใครทางมัน
4. ข าดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วพอมีปัญหาแทนที่จะยืดหยุ่นแทนที่จะมีการปรับตัว แทนที่จะมีการให้โอกาส
ต่างฝ่ายต่างก็ถือเอาอัตตา
หรือตัวตนของตัวเองเป็นใหญ่ไม่ยอมเรียนรู้ไม่ยอมฟังกัน เมื่อไม่ยอมยืดหยุ่นต่างคนก็ต้องต่างไป
ทางใครทางมันเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นใครก็ตามอยู่กันเป็นครอบครัว ควรจะนำหลักธรรมดังกล่าวไป ลองประยุกต์ใช้
ในชีวิตให้มากที่สุดหลักธรรมนี้เปรียบเสมือนน้ำ
น้ำนั้นทำทุ กอย่ างเชื่อมหลอมรวมทุ กสิ่งทุ กอย่ างเข้าด้วยกัน ฉันใด หลักธรรมมะก็
เชื่อมคนในครอบครัวให้อยู่ด้วยกันอย่ างสนิมสนมกลมเกลียว
ด้วยกันฉันนั้น ถ้า เ ข า ยั งไม่สามารถกลับมารักเดียวใจเดียวได้ คุณก็ต้องรักตัวเอง
ด้วยการหาทางรอดให้ตัวเอง คือถอยออกมา
อย่ ายืนทั้งเป็นด้วยความทุ กข์ที่กัดกร่อนใจอยู่เลยนอกใจครั้งแรกได้ ครั้งที่สอง ครั้งต่อ ๆ ไป
มันไม่ย ากสำหรับเขาหรอกค่ะคนเราจะเมตตา ต้องมีปัญญา
ไม่อย่ างงั้นจะกลายเป็นแค่คนโ ง่ที่ใจดี
ขอบคุณที่มา : pankana