Home ข้อคิด คน ร ว ย กับ ค น จ น สังคม ต่างกันเยอะ

คน ร ว ย กับ ค น จ น สังคม ต่างกันเยอะ

14 second read
ปิดความเห็น บน คน ร ว ย กับ ค น จ น สังคม ต่างกันเยอะ
0
577

1. คนร วยทำงานเพื่อหากำไร

คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง คนร วยมองว่านี่คือหนทางที่จะทำให้ร วยได้มากกว่า

แม้ว่าจะมีความเสี่ ยงในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้าเสี่ ยง

 

และอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อยกว่า จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน

แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองร วยได้

 

2. คนร วยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต

คนชั้นกลางคิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน นิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ นี้ ผมคิดว่าเป็นหัวใจ

เศรษฐีจริง ๆ เพราะในความรู้สึกของผมเอง การเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐาน

ที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้

 

และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนนั้นย าวมากเป็นหลายสิบปี ดังนั้น ความรู้ส่วนใหญ่

จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน

 

โดยนัยของข้อนี้คนร วยจึงน่าจะมีนิสัยรักการอ่ านหรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อย ๆ

ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นพอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจอ่ านหนังสือหรือหาความรู้ใหม่ ๆ

 

และความรู้ที่ผมคิดว่าคนชั้นกลางพลาดไปเพราะไม่มีการสอนในโรงเรียน

ก็คือความรู้ทางด้านการเงิ นที่คนร วยมักจะศึกษาต่อเพราะเห็นถึงความสำคัญ

และอาจนำไปสู่ความร่ำร วยได้

 

3. คนร วยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน

คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ ข้อนี้ผมเองคงไม่มีคอมเม้นท์อะไร

ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคน

 

ที่ไม่ค่อยบอกหรือรู้กัน ยกเว้นกรณีที่เป็นการบริจาคใหญ่ ๆ

อย่ างกรณีของบัฟเฟตต์หรือบิลเกต

 

4. คนร วยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ

และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น นี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนร วยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของ

สิ่งของหรือคนอื่นแต่หมายถึงว่าคนร วยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจน

 

และมักจะเป็นคนที่มีแนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน

เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่าคนร วยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจน

 

ซึ่งมักจะชอบ “ซุบซิบนินทา”เป็นนิจสินในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ

ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น

 

5. เศรษฐีนั้นคิดย าวแต่คนชั้นกลางคิดสั้น

ว่าที่จริงคนที่คิดสั้นที่สุดก็คือคนจนพวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวัน ทำนองหาเช้ากินค่ำ

คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือนนั่นคือคิดถึงวันเงิ นเดือน

 

ออกแต่คนร วยจะต้องคิดย าวเป็นปี ๆ หรือเป็นสิบ ๆ ปี ในใจของคนจนนั้น เขามักคิดแต่เฉพาะ

เรื่องของความอยู่รอดเป็นหลักในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบาย

 

จากการจับจ่ายใช้สอยสินค้าส่วนคนร วยนั้น เป้าหมายของพวกเขาชัดเจนเขาต้องการความ

เป็นอิสระทางการเ งินการคิดย าวนั้นมีพลังมหาศาล

 

เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะย าว ซึ่งจะทำให้เ งินงอกเงยแบบทบต้นเป็น

เวลานานและนี่คือสูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง

 

6. คนร วยกล้ารับความเสี่ ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว

คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเ สี่ยงนี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางในความเห็น

ของผมคนที่ไม่ยอมรับความเสี่ ยงเลยนั้นจะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีโดยสิ้นเชิง

 

ในขณะที่คนที่กล้ารับความเสี่ ยงอย่ างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่ างดีจะสามารถสร้างผลตอบแทน

ที่ดีได้โดยที่ความเสี่ ยงจริง ๆนั้นจะมีน้อยมากตัวอย่ างที่เห็นชัดเจนที่สุด ก็คือ

 

คนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตราส ารการเงิ นที่มีความผันผวนของราคา

โดยที่เขาไม่พย าย ามศึกษาว่าในระยะย าวแล้วมันอาจจะมีความคุ้มค่ากว่าการฝากเ งินในธนาคารมาก

 

ในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความเสี่ ยงอย่ าง “บ้ าบิ่น” เช่น คนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเองก็ไม่ใช่นิสัย

ของคนร วยคนร วยนั้นจะต้องรับความเสี่ ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่ างถี่ถ้วนแล้ว

 

7. คนร วยยอมรับการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

คนชั้นกลางรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะคุ กคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชินในขณะที่คนร วยนั้น

คิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่าเขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้น

 

มักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้เบื้องหลัง นิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนร วยมีความมั่นใจสูงกว่า

คนชั้นกลาง ที่มักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้

 

ขอบคุณที่มา : forlifeth

Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คำกล่าวเปิดงาน ใช้บ่อย เก็บไว้ฝึกให้ พูดคล่อง ๆ

1. งานเลี้ยงส่ง เรียน ท่าน (ประธานจัดงาน) และแขกผู้มีเก … …