Home ข้อคิด ข้อคิดสอนใจ “เมื่อไม่มี พ่อแม่แล้ว”

ข้อคิดสอนใจ “เมื่อไม่มี พ่อแม่แล้ว”

10 second read
ปิดความเห็น บน ข้อคิดสอนใจ “เมื่อไม่มี พ่อแม่แล้ว”
0
418

พ่อแม่คือผู้มีพ ระคุณที่สุดของลูก ๆ ทุ กคน ตั้งแต่เล็กจนโต ก็มีแต่พ่อแม่ที่คอยห่วง

คอยดูแลไม่ว่าจะย ามกินหรือย ามนอน แม้ในตอนที่เราโตแล้ว เรียนจบแล้วมีงานทำแล้ว

พ่อแม่ก็ยังคอยเป็นห่วงเราอยู่เสมอ

 

ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่ต่อให้ลูก จะอายุเพิ่มมากขึ้นซักเท่าไหร่ ก็ยังเป็นลูกตัวน้อย สำหรับเค้าอยู่เสมอ

พ่อแม่ส่วน มากแล้ว เมื่อมีลูกก็ ต้องการดูแลลูก อ ย่ า ง ดี ต้องการให้ลูก ๆ ของตัวเองนั้นได้มีชีวิต

ความเป็นอยู่ มีการศึกษาแ ละมีอนาคตที่ดีกว่า

 

ตนเองด้วยกันทั้งนั้น น้อยนักที่จะมีพ่อแม่คนไหน ที่ต้องการหรือยอมให้ลูกของตัวเอง นั้นลำบาก

ลูกนั้นเปรียบได้ กับแก้วต าและ หั ว ใ จ ของ พ่ อ แ ม่ ห ล า ย ค น ที่เมื่อมีลูก ก็ต้องการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น

ต้องการให้ลูกของเรานั้นได้รับ ความสุขสะดวกสบายในทุ ก ๆ ด้าน

 

ไม่ว่าจะเป็นด้านชีวิต ความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เ งิ นท องที่ใช้จ่ายได้ ต ามใจปรารถนา พร้อมทั้งการศึกษาที่ดีในสถาบัน

ที่มีชื่อเ สี ยงความสมบูรณ์ แต่ก็ยังมีอีกหล า ยครอบครัว ที่ไม่ได้เป็นดังที่เรากล่าวมาข้างต้น ยังมีพ่อแม่อีกมากที่

ไม่พร้อม จะมีลูกต้องนำลูกไปทิ้ง

 

หรือนำไปฝากไว้ที่อื่น และก็ยังมีพ่อแม่อีกมากที่ไม่ได้ คำนึงถึงอนาคตของลูก ปล่อยให้ลูกต้องอยู่อย่ างโดดเดี่ยว

ไม่มีคนคอยช่วย ประคับประคองไม่ว่าจะเป็น ทั้งทางร่ างก ายและจิตใจ สำหรับใครที่ยังมี ครอบครัวที่คอยเข้าใจ

คอยดูแลอยู่นั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ดี อ ย่ า ง มากเคยคิดกันไหมว่า หากพรุ่งนี้ไม่มีแม่อยู่แล้ว จะเป็น อ ย่ า ง ไร

 

โบราณว่าไว้ หากข า ดพ่อเหมือนถ่อหั ก ข า ดแม่เหมือน แพ แ ต ก ชีวิตของลูกคง กระจัดกระจายไร้ทิศทาง

หากเปรียบชีวิตเหมือนการข้ามฝั่งในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ซึ่งต้องอาศัยแพ และไม้ถ่อข้ามฝั่งเพื่อไปสู่เป้าหมาย

อ ย่ า ง ป ล อ ด ภั ย

 

หากเปรียบไปก็เหมือนพ่อ กับแม่ ถ่อเปรียบเสมือนพ่อ แพเปรียบเสมือนแม่ ถ้าถ่อหั กก็ยังสามารถ ใช้มือหรือเท้าพายแทน

แต่ก็ต้องทุลักทุเล พอควร มีโอกาสถึงฝั่ง 50-50 แต่หากแพต้อง แ ต ก หรือ อั บ ปางกลางแม่น้ำ

 

โอกาสที่จะถึงฝั่งก็คงลางเลือน และริบหรี่เต็มประดา แม่ผู้ให้ทุ กสิ่งทุ ก อ ย่ า ง แ ก่ลูก แม่ผู้ยอมอ ดเพื่อให้ลูกอิ่ม

แม่ผู้ที่ยอม ทุ ก ข์ เพื่อให้ลูกสุข แม่ผู้ที่ยอมลำบากเพื่อให้ลูกสบาย แม่ผู้ที่รักเป็นห่วงเป็นใย

และเฝ้าถามลูกอยู่เสมอ เหนื่อยไหมลูก

 

หิวไหมลูก แล้วลูกหล่ะเคยถามแม่บ้าง หรือเปล่าลูกบางคน ย า ม แม่มีชีวิตอยู่ ไม่เคยเลยที่จะ รั ก ษ า น้ำใจท่าน

ไม่เคยเลยที่จะเลี้ยงดูใจท่านทำให้ท่านสบายอ กสบายใจ บางคนเอาแต่สนุก เลี้ยงเพื่อนฝูงมากกว่าเลี้ยงแม่

ปล่อยให้แม่นั่งเหงานั่งรอ

 

เรากลับบ้านเพื่อมาทานข้าว ด้วยกันและหากเย็นนี้ แม่คุณไม่อยู่แล้วคุณจะทำได้ เพียงแต่ข้าวต้มถ้วยเดียว

และน้ำเปล่าครึ่งแก้วใส่ถาดเอาไปวางไว้ แล้วลูกชายลูกหญิงผู้ โ ง่ เขลา ก็จะไปเคาะข้างโ ล ง พร้อมกับพูดว่า

แม่จ๋าลุกขึ้น มากินข้าวเถอะ

 

แม่จ๋าลุกขึ้น มากินน้ำเถอะ แม่จ๋าพ ระมาแล้วฟังสวดนะแม่นะ แต่ในขณะที่แม่มีชีวิตอยู่ เราจะได้ยินแต่คำว่า

ลูกจ๋าลูกหิวหรือเปล่า ลูกต้องการอะไรหรือเปล่า ลูกจ๋าลูกไม่สบายหรือเปล่า จะมีลูกซักกี่คนที่จะถามแม่เช่นนั้น

หรือจะรอให้แม่จากไป ซะก่อนแล้วค่อยถาม อ ย่ า ง นั้นหรือ เรารักสิ่งใด เราจะถนอมสิ่งนั้น รั ก ษ าสิ่ งนั้น

 

แล้วมันจะอยู่กับเรานานถ้าเรารักแม่ต้องถนอมน้ำใจท่าน รั ก ษ า ใจท่าน ตอนที่แม่มีชีวิต อยู่ไม่เคยสนใจท่านเลย

แต่พอท่านไม่อยู่กลับนำร่างที่ไร้วิญ ญ าณ ของแม่ไปใส่โ ล งท อง อ ย่ า ง ดี เอาไปไว้วัดแล้วนิมนต์ พ ระมาสวด 7 วัน 7 คืน

หวังว่าแม่จะไปสู่สุ ข คติ โลกสวรรค์

 

นี่หรือคือสิ่งที่เรามอบให้แม่ ทำความดีมีความกตัญญู ต่อแม่ขณะมีชีวิต อยู่ประเสริฐ กว่าการสำนึกบุญคุณได้เมื่อท่าน

จากไปแล้วหากใครที่ได้อ่ าน สิ่งที่เรานำมาฝากเหล่านี้แล้ว อ ย่ า ลืมหันไปมอง คนรอบข้างไม่เพียงแต่แม่เท่านั้น

 

ยังหมายรวมไปถึงคนสำคัญ ในครอบครัวของเรา อ ย่ า ปล่อยให้เวลา ผ่ า น ไปทำดี

ในตอนที่ยังทำได้หากมาคิดได้ ตอนเค้าจากไปแล้วทำดีเท่าไหร่ ก็คงไม่ถึงคนที่เรารักอยู่ดี

 

ขอบคุณที่มา : kiddidee

Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คำกล่าวเปิดงาน ใช้บ่อย เก็บไว้ฝึกให้ พูดคล่อง ๆ

1. งานเลี้ยงส่ง เรียน ท่าน (ประธานจัดงาน) และแขกผู้มีเก … …