นานมาแล้ว มีซ ากช้างลอยไปตามกร ะ แ สน้ำ กา ตัวหนึ่งพบเข้า
ก็ดีใจคิดว่าตนเป็นผู้โ ชคดี เพราะ…
จะได้อาหารกินฟรี โดยไม่ต้องออกแรงไปอีกนานจึงโผลงจับ
ที่ซ ากช้าง จิกกินเ นื้อช้างที่เน่ าเปื่ อ ย
อิ่มแล้วก็หลับอยู่บนซ า กช้างนั้นเองตื่นขึ้นก็กินอีก กิน ๆ นอน ๆ
อยู่กับซ า กช้างนั้นอย่ าง
มีความสุข นานวันเข้ากระแสน้ำก็ไหลออกสู่ทะเล ซ ากช้างก็
พลอยไกลฝั่งออกไปเรื่อย ๆ จนถึงกลาง
มหาสมุทรพอซ ากช้างเปื่อ ยเน่ าสื้นไป กาก็มอง ไม่เห็นฝั่งเสี ย แล้ว
ถึงจะพย าย ามบินกลับอย่ างไร
ก็ไม่สามารถพ้ น จากมหาสมุทรได้ จึงหมดแรง
จมน้ำ ต า ย ในที่สุด
ในทางธรรม…
ซ า กช้างที่ลอยไปตามกร ะ แ ส น้ำนั้น ท่านเปรียบเหมือนก า มคุณ
๕ ได้แ ก่…รูป เ สียง
กลิ่น รสและ สัมผัสที่น่าพอใจ ทำให้เกิดสุขซึ่งเป็นเรื่องที่ปุถุชน
มุ่งแสวงหา เพราะที่มนุษย์ต้องการเ งิน
ท องข้าวของอาหารการกินหรือที่อยู่อาศัย ก็เพราะ..สิ่งเหล่านี้
เป็นเครื่องมือให้ชีวิตเข้าถึง รูป เ สียง กลิ่น
รส และสัมผัสที่ทำให้เกิดสุขทั้งสิ้นไม่นับวัตถุสิ่งของเครื่องปรนเปรอ
ความสุขส่วนเกินที่มีอยู่อีกกลาดเกลื่อนมากมาย
ก า มคุณ ๕ จึงเป็นของคู่กับชีวิตมนุษย์ โดยเฉพาะมนุษย์ปุถุชน
ด้วยแล้วก็เปรียบเหมือนอาหารที่จำเป็นกับชีวิตนั่นแหละ
ข้อควรระวั งในเรื่องนี้ก็คือ…
แม้ต้องมีก า ม คุณเป็นอาหารของชีวิต แต่ไม่ควรหล งใหล
เผลอสติต้องนึกไว้เสมอว่า… ชีวิตที่ผูกพันกับกา มคุณ
ก็เหมือนการอยู่บนซ า กช้างที่ลอยไกลออกไปทุ กที
แล้วฝึกคิดให้เห็นด้านที่เป็น โ ท ษ ของกา ม คุณเสี ย บ้าง
ยินดีในความสุขเหล่านั้นแต่พอประมาณจึงจะไม่ต้องพบชะตากร รม
เหมือนกาหลงซ า กตัวนั้นเชื่อมั่นใน ศรัทธา
ขอบคุณที่มา : chayend