1. ความเห็นคนรอบข้าง “จำเป็น” หรือเปล่า
หนึ่งในปัญหาของการตัดสินใจของการเปลี่ยนงาน คือ “ความเห็น” จากคนรอบข้าง
ทั้งเพื่อนที่ทำงานเก่า หรือแม้แต่คนที่ชวนเราไปสมัครงานใหม่
มักจะมาทำให้สับสนใจอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นเราควรถามว่า “ความเห็นเหล่านั้น”
จำเป็นต่อการตัดสินใจหรือไม่ลองสมมุติว่า… ถ้าเรากำลังจะยื่นใบลาออกเพื่อไปอยู่
ที่ทำงานใหม่ แต่คนรอบข้างคุณบอกว่า
“ไม่อย ากให้ไป” หรือ “ไม่ยอมให้ออก” เรายังจะลาออกอยู่หรือไม่?
และถ้าไม่ลาออก อย่ าลืมตอบคำถามด้วยนะครับว่า “เพราะอะไร
สิ่งหนึ่งที่คุณควรคิดมากกว่าความเห็นของคนรอบข้าง…
นั่นคือ “เหตุผลที่คุณควรทำงานอยู่ที่นี่” มากกว่าครับ
2. เราพร้อมเปิดรับ “สังคมใหม่” หรือยัง
อีกหนึ่งปัญหาก็คือเรื่องของ “ความปลอดภัยในสังคมเดิม ๆ”
หรือ Comfort Zone ที่หลาย ๆ คนมักจะให้ก้าวออกมาเพื่อ “เปลี่ยนแปลง”
แต่ส่วนตัวแล้ว
ผมกลับมองว่า สิ่งที่เราควรจะเปลี่ยนแปลง คือ “ความคิด” ของตัวเราเองก่อน
เพราะ เราไม่รู้หรอกว่าสังคมใหม่ที่ว่าจะดีหรือแ ย่กว่าสังคมเดิมที่เราอยู่
จนกว่าเราจะได้ไปลองทำดูครับ
ดังนั้น ถ้าเราคิดว่าตัวเองเป็นคนปรับตัวย ากไม่พร้อมที่จะออกสู่สังคมใหม่
มันก็ไม่ผิดอะไรที่ที่จะตัดสินใจไม่ “ก้าว” ออกจาก Comfort Zone
เพราะถ้าก้าวออกไปแล้วแล้วผิ ดพลาด
การอยู่เฉย ๆ ในที่ปลอดภัยก็อาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องกว่าก็ได้
เพราะคำถามที่ต้องถามจริง ๆ ก็คือ “เราเป็นคนที่ปรับตัวได้ง่ายหรือเปล่า” ต่างหาก
3. เป้าหมายของชีวิตของเรา คืออะไร
ข้อสุดท้าย อาจจะไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนงานแต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ที่เราควรจะถามตัวเองอยู่ทุ กวันนั่นคือ “ชีวิตนี้เราต้องการอะไร”
เพราะคนเราทุ กคนนั้นใชัเวลาทำงานอย่ างน้อย 1 ใน 3 ของวัน
นั่นแปลว่าถ้า 33% ของเราที่ใช้ไปนั้น ไม่ทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้
มันคงจะเหนื่อยและลำบากมาก ๆ เลย จริงไหมครับ
4. ผลตอบแทนที่ได้นั้น “คุ้มค่า” บ้ างไหม
เช่นเดียวกันกับความชื่นชอบ สิ่งหนึ่งที่เราตอบตัวเองได้คือ “ผลตอบแทน”
จนมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนบอกผมว่า “ถ้าจ้างงานหนักแค่ไหน แต่เงิ นถึงเราก็ไป”
ไชโย…
แต่อย่ าลืมพิจารณาเรื่องของ “ความคุ้มค่า” ด้วยนะครับว่า “ผลตอบแทนที่เราได้นั้น”
คือ “มูลค่าที่กิจการยอมจ่าย” บวกด้วย “ค่าเสี ยโอกาส”
เพราะสิ่งที่เรายอมแลกไปเพื่อให้ได้กลับมา
ไม่ใช่มีแค่ต้นทุนเวลาในการทำงานเพียงอย่ างเดียว อย่ าลืมพิจารณาถึง
โอกาสการเติบโต ความก้าวหน้าในสายอาชีพ และเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญ
ในการใช้ชีวิตด้วยนะครับ
5. เราชอบ “งานใหม่” มากกว่า “งานเก่า” หรือไม่
คนหลายคนมักจะหางานใหม่เพราะเพลียใจกับงานเก่า เช่น งานหนักเกินไปจนไม่มีเวลา
งานมีปัญหาให้แก้ไขจนเ ค รี ย ดอยู่เสมอ เราจึงพย าย ามจะหางานใหม่
ที่คิดว่าจะ “เบา”
กว่างานเก่า แต่คำถามที่เราลืมถามต่อไปก็คือ ถ้า “งานใหม่” มีปัญหาเหมือนงานเก่า
เรายังคงจะทำมันต่อไปได้หรือไม่ หรือว่าจะเปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ
กันแน่ล่ะ
เหตุผลข้อนี้ผมเขียนขึ้นด้วยทฤษฏีที่ว่า “ไม่มีงานที่รัก มีแต่งานหนักที่เราทนทำมันไปได้ตลอดชีวิต”
เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เชื่อว่า จะมีงานไหนที่เรารักจริง ๆ
แต่ผมเชื่อว่ามันจะมีงานที่เราสามารถรับผิดชอบทำมันต่อไปได้ทั้ง ๆ ที่เราจะไม่ชอบมันก็ตาม
โดยเหตุผลของการทำงานนั้นต่อนั้นต้องไม่มีเหตุผลเรื่องเงิ นเป็นส่วนประกอบ
ขอบคุณที่มา : jingjai999