Home ข้อคิด ก่อนจะลาออก ถามใจตัวเองก่อน

ก่อนจะลาออก ถามใจตัวเองก่อน

14 second read
ปิดความเห็น บน ก่อนจะลาออก ถามใจตัวเองก่อน
0
426

1. ความเห็นคนรอบข้าง “จำเป็น” หรือเปล่า

หนึ่งในปัญหาของการตัดสินใจของการเปลี่ยนงาน คือ “ความเห็น” จากคนรอบข้าง

ทั้งเพื่อนที่ทำงานเก่า หรือแม้แต่คนที่ชวนเราไปสมัครงานใหม่

 

มักจะมาทำให้สับสนใจอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นเราควรถามว่า “ความเห็นเหล่านั้น”

จำเป็นต่อการตัดสินใจหรือไม่ลองสมมุติว่า… ถ้าเรากำลังจะยื่นใบลาออกเพื่อไปอยู่

ที่ทำงานใหม่ แต่คนรอบข้างคุณบอกว่า

 

“ไม่อย ากให้ไป” หรือ “ไม่ยอมให้ออก” เรายังจะลาออกอยู่หรือไม่?

และถ้าไม่ลาออก อย่ าลืมตอบคำถามด้วยนะครับว่า “เพราะอะไร

 

สิ่งหนึ่งที่คุณควรคิดมากกว่าความเห็นของคนรอบข้าง…

นั่นคือ “เหตุผลที่คุณควรทำงานอยู่ที่นี่” มากกว่าครับ

 

2. เราพร้อมเปิดรับ “สังคมใหม่” หรือยัง

อีกหนึ่งปัญหาก็คือเรื่องของ “ความปลอดภัยในสังคมเดิม ๆ”

หรือ Comfort Zone ที่หลาย ๆ คนมักจะให้ก้าวออกมาเพื่อ “เปลี่ยนแปลง”

แต่ส่วนตัวแล้ว

 

ผมกลับมองว่า สิ่งที่เราควรจะเปลี่ยนแปลง คือ “ความคิด” ของตัวเราเองก่อน

เพราะ เราไม่รู้หรอกว่าสังคมใหม่ที่ว่าจะดีหรือแ ย่กว่าสังคมเดิมที่เราอยู่

จนกว่าเราจะได้ไปลองทำดูครับ

 

ดังนั้น ถ้าเราคิดว่าตัวเองเป็นคนปรับตัวย ากไม่พร้อมที่จะออกสู่สังคมใหม่

มันก็ไม่ผิดอะไรที่ที่จะตัดสินใจไม่ “ก้าว” ออกจาก Comfort Zone

เพราะถ้าก้าวออกไปแล้วแล้วผิ ดพลาด

 

การอยู่เฉย ๆ ในที่ปลอดภัยก็อาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องกว่าก็ได้

เพราะคำถามที่ต้องถามจริง ๆ ก็คือ “เราเป็นคนที่ปรับตัวได้ง่ายหรือเปล่า” ต่างหาก

 

3. เป้าหมายของชีวิตของเรา คืออะไร

ข้อสุดท้าย อาจจะไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนงานแต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ที่เราควรจะถามตัวเองอยู่ทุ กวันนั่นคือ “ชีวิตนี้เราต้องการอะไร”

 

เพราะคนเราทุ กคนนั้นใชัเวลาทำงานอย่ างน้อย 1 ใน 3 ของวัน

นั่นแปลว่าถ้า 33% ของเราที่ใช้ไปนั้น ไม่ทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้

มันคงจะเหนื่อยและลำบากมาก ๆ เลย จริงไหมครับ

 

4. ผลตอบแทนที่ได้นั้น “คุ้มค่า” บ้ างไหม

เช่นเดียวกันกับความชื่นชอบ สิ่งหนึ่งที่เราตอบตัวเองได้คือ “ผลตอบแทน”

จนมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หลายคนบอกผมว่า “ถ้าจ้างงานหนักแค่ไหน แต่เงิ นถึงเราก็ไป”

ไชโย…

 

แต่อย่ าลืมพิจารณาเรื่องของ “ความคุ้มค่า” ด้วยนะครับว่า “ผลตอบแทนที่เราได้นั้น”

คือ “มูลค่าที่กิจการยอมจ่าย” บวกด้วย “ค่าเสี ยโอกาส”

เพราะสิ่งที่เรายอมแลกไปเพื่อให้ได้กลับมา

 

ไม่ใช่มีแค่ต้นทุนเวลาในการทำงานเพียงอย่ างเดียว อย่ าลืมพิจารณาถึง

โอกาสการเติบโต ความก้าวหน้าในสายอาชีพ และเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญ

ในการใช้ชีวิตด้วยนะครับ

 

5. เราชอบ “งานใหม่” มากกว่า “งานเก่า” หรือไม่

คนหลายคนมักจะหางานใหม่เพราะเพลียใจกับงานเก่า เช่น งานหนักเกินไปจนไม่มีเวลา

งานมีปัญหาให้แก้ไขจนเ ค รี ย ดอยู่เสมอ เราจึงพย าย ามจะหางานใหม่

ที่คิดว่าจะ “เบา”

 

กว่างานเก่า แต่คำถามที่เราลืมถามต่อไปก็คือ ถ้า “งานใหม่” มีปัญหาเหมือนงานเก่า

เรายังคงจะทำมันต่อไปได้หรือไม่ หรือว่าจะเปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ

กันแน่ล่ะ

 

เหตุผลข้อนี้ผมเขียนขึ้นด้วยทฤษฏีที่ว่า “ไม่มีงานที่รัก มีแต่งานหนักที่เราทนทำมันไปได้ตลอดชีวิต”

เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เชื่อว่า จะมีงานไหนที่เรารักจริง ๆ

 

แต่ผมเชื่อว่ามันจะมีงานที่เราสามารถรับผิดชอบทำมันต่อไปได้ทั้ง ๆ ที่เราจะไม่ชอบมันก็ตาม

โดยเหตุผลของการทำงานนั้นต่อนั้นต้องไม่มีเหตุผลเรื่องเงิ นเป็นส่วนประกอบ

 

ขอบคุณที่มา : jingjai999

Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คำกล่าวเปิดงาน ใช้บ่อย เก็บไว้ฝึกให้ พูดคล่อง ๆ

1. งานเลี้ยงส่ง เรียน ท่าน (ประธานจัดงาน) และแขกผู้มีเก … …