1. โยนความผิดให้ลูกน้อง
นับว่า เป็นเรื่อง ร้ า ย แ ร ง สำหรับความสัมพันธ์ของคนในทีม
เมื่อหัวหน้าถูกตำหนิจากเบื้องบนหรือผู้บริหารและนำความ เ ค รี ย ด
นั้นมาลงกับลูกน้องด้วยการโยนความผิดให้คนอื่น
นั้นอาจส่งผลไปถึงความแต กแยกได้เช่นกันไม่ว่าความผิดนั้นจะมาจากใคร
สิ่งแรกที่ควรทำคือช่วยกันคิด เพื่อหาทางแก้ ดีกว่าหาตัวคนผิด
นอกจากเสี ยเวลาแล้ว ยัง บั่ น ท อ น จิตใจคนทำงานด้วยครับ
ฉะนั้น หัวหน้าอย่ างเราควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกน้องว่าทุ ก
ปัญหาย่อมมีทางแก้เสมอ
2. ไม่พัฒนาลูกน้อง
การจะปกครองคนได้อย่ างมีประสิทธิภาพที่สุด คือการไม่หวงความรู้ครับ
เพราะการถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในทีมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนา
การทำงานต่อไปได้อย่ างดีที่สุด เพราะหัวหน้าสามารถใช้ทักษะ
และประสบการณ์ที่มีบอกต่อได้อย่ างน่าเชื่อถือ ถ้าปล่อยปะละเลย
ไม่สนว่าลูกน้องเรียนรู้ ไปถึงไหนก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ในทีม แ ย่ ลง
กว่าเดิมไปอีกถ้าหัวหน้าสามารถทำให้ลูกน้อง
ของเราเก่งขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ลูกน้องมีความสามารถในการรับผิดชอบ
ต่องานได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้นเปิดทางให้ลูกน้องเข้ามาสื่อ ส า ร สอบถาม
และขอความคิดเห็น
แลกเปลี่ยนมุมมองการทำงาน เชื่อผมสิครับว่าจะเป็นทีมที่
แข็งแกร่งมากอย่ างแน่นอน
3. พูดคำไม่สุภาพกับลูกน้อง
การสื่อ ส า ร เป็นทักษะสำคัญ สำหรับคนทำงาน แต่ต้องมาพร้อมกับการสื่อ ส า ร ที่ดี
ไม่ทำ ร้ า ย คนฟัง ไม่ว่าเราจะอยู่ลำดับไหนด้วยเช่นกันครับ ดังนั้นการเป็นผู้นำที่ดี
ต้องมีสติในการสื่อ ส า ร เสมอ รวมไปถึงความฉลาดทางอ ารมณ์
ที่ต้องใช้เหตุผลและคำพูดที่ดีไม่ทำ ร้ า ย จิตใจใคร
จำไว้เสมอ ว่าคำพูดที่เราพูดออกไปแล้วนั้นไม่สามารถนำกลับมาได้
คำพูดส่งผลต่อพฤติกร รม ของคนฟังเช่นกันครับ
ถ้าเราใช้คำพูด ร้ า ย ๆ หรือวิพากษ์วิจารณ์ลูกน้องต่อหน้าคนอื่นในบริษัท
จะส่งผลให้เขาเสี ยความมั่นใจและเสี ยบรรย ากาศในการทำงาน
กลับกันถ้าเราใช้คำพูดที่ดี ใจเย็น มีเหตุผล จะช่วยให้ลูกน้องมีความเชื่อมั่น
ในตัวเองมากขึ้น เพราะรับรู้ว่าหัวหน้ายังรับฟังเขาอยู่เสมอ
4. ไล่บี้งานลูกน้อง
การมอบหมายงานทุ กครั้ง ต้องมาพร้อมกับความชัดเจนในการส่งงาน
เพื่อให้พนักงานสามารถจัดสรรเวลาการทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น
เพื่อที่จะส่งงานได้ตามกำหนด แม้หัวหน้าจะมีสิทธิ์ในการทวงถามงาน
แต่หากยังไม่ถึงกำหนดส่งก็ไม่ควรไล่บี้จนลูกน้อง เกิดความกังวล
และทำงานรน ๆ
จนเกิดข้อผิ ดพลาดถ้าต้องการงานชิ้นนั้นอย่ างเร่งด่วนจริง
แต่ลูกน้องยังไม่ส่งมอบงานก็ลองไถ่ถามลูกน้อง
ถึงปัญหาในการทำงานด้วยความใจเย็นเผื่อว่าเราจะมีส่วนช่วย
ในการให้ลูกน้องทำงานได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
5. ปิดใจไม่ยอมรับฟังลูกน้อง
การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ใช่เรื่องน่าเสี ยหาย สำหรับการเป็นผู้นำครับ
แม้เราจะต้องเดินนำคนอื่นอยู่ข้างหน้า แต่การหยุดพัก
ฟังเสี ยงคนรอบข้างเสี ยหน่อยจะช่วยให้เราได้ไอเดียดี ๆ ในการทำงานมากอีกมาย
โดยเฉพาะลูกน้องของเราที่ได้ลงไปสัมผัสกับชิ้นงานทำให้พวกเขารู้ดีที่สุด
ว่าปัญหาของงานนั้นคืออะไร จะได้ช่วยกันหาทางแก้ได้อย่ างถูกจุดที่
สุดการมีลูกน้องเป็นเพื่อนคู่คิดเหมือนได้ลาภอันประเสริฐ เพราะอย่ างน้อย
ก็ดีกว่าการแก้ไขปัญหาคนเดียวครับ
ขอบคุณที่มา : jingjai999