สุภาษิต – สามประโยคที่พ่อสอนสั่ง
ตอนเด็ ก ข้าพเจ้าเป็นคนเห็นแ ก่ตัวมากเจออะไรดี ๆ จะอย ากเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ โดยไม่ใสใจว่า
คนอื่นเขาคิดอย่ างไร นานเข้าเพื่อน ๆ หายไปทีละคนสองคน ลดลงไปเรื่อย ๆ
ข้าพเจ้ากลัดกลุ้ม และ หงุดหงิดใจมากนอกจากเห็นแ ก่ตัวแล้ว…ข้าพเจ้ายังเป็นคนชอบวิพากษ์วิจารณ์คนลับหลัง
มีอยู่คืนหนึ่ง คุณพ่อทำบะหมี่สองชาม ชามหนึ่งมีไข่ไก่ฟองหนึ่ง
บนบะหมี่ อีกชามดูไม่มีอะไร มีแต่บะหมี่ คุณพ่อถามข้าพเจ้าว่าจะทานชามไหน ตอนนั้นไข่ไก่เป็นของหาย ากมาก
ต้องตรุษจีน หรือ วันเกิด ถึงมีโอกาสได้ทานซึ่ง แน่นอน…
ข้าพเจ้าก็เลือกทานชามที่มีไข่ตอนที่ทานอย่ างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น เห็นคุณพ่อทานถึงก้นชามแล้ว
ในก้นชามถึงกับมีไข่สองฟองข้าพเจ้ารู้สึกเสี ยใจ… ที่ตนใจร้อนไม่ได้คิดให้ดี
คุณพ่อเห็นท่าก็ยิ้มแล้วพูดกับข้าพเจ้าว่า…
“ลูกเอ๋ย เจ้าจงจำไว้ที่ตาเห็นนั้นอาจไม่ใช่ ของแท้ คิดจะเอาเปรียบคนอื่น กลับข าดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก” ( ประโยคที่ 1 )
ในคืนที่สอง… คุณพ่อก็ทำบะหม่อีกสองชามดูแล้วเหมือนของคืนก่อนไม่มีผิด ชามหนึ่งมีไข่โปะอยู่ฟองหนึ่ง
อีกชามหนึ่งคล้ายมีแต่บะหมี่ คุณพ่อให้ข้าพเจ้าเลือก ข้าพเจ้าเ สียรู้ไปทีแล้ว
วันนี้ข้าพเจ้าจึงเลือกเอาชามที่ไม่มีไข่ คุณพ่อมองข้าพเจ้าโดยไม่ได้ปริปาก
ข้าพเจ้าจับตะเกียบรีบโกยบะหมี่เข้าปาก ด้วยคิดจะทานไข่ในก้นชามไว ๆ แต่หารู้ไม่ว่า… ในชามนั้น
นอกจากบะหมี่และซุบแล้วไม่มีอะไรเลยและแล้วคุณพ่อกับกล่าวกับข้าพเจ้าว่า…
” ลูกเอ๋ย เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะลูก อย่ าให้ความสำคัญหรือเชื่อในประสบการณ์มากเกินไป เพราะการดำรงชีวิตมีการพลิกเพลง
หลอกเราได้ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ไม่ต้องเ สียใจ ถือว่าเป็นการลิ้มลองเป็นประสบการณ์ก็แล้วกันนะลูก ภูมิปัญญาเหล่านี้
หาอ่ า นจากตำราไม่ได้นะ ” ( ประโยคที่ 2 )
ในคืนที่สาม… คุณพ่อก็ทำบะหมี่สองชามอีก ดูเป็นแบบเดียวกัน ชามหนึ่งมีไข่ฟองหนึ่ง อีกชามไม่มีไข่
คราวนี้ข้าพเจ้าไม่หุนหันเหมือนสองคืนที่ผ่ านมาให้คุณพ่อเลือกก่อน
ข้าพเจ้าพูดกับคุณพ่อด้วยความเคารพว่า…
” คุณพ่อครับ ท่านเป็นผู้ใหญ่ท่านเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลครอบครัวเรามามากแล้ว คุณพ่อเลือกก่อนเถอะครับ “
คุณพ่อเลือกเอาชามที่มีไข่หนึ่งฟอง
ส่วนข้าพเจ้าก็ทานชามที่ไม่เห็นมีไข่ แต่ผิดคาด…
ในก้นชามมีไข่อยู่สองฟองคุณพ่อเงยหน้าขึ้นพูดกับข้าพเจ้า ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน และ เนิบ ๆ ว่า..
“ ลูกต้องจำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิดและทำเพื่อคนอื่นแล้ว ความโ ชคดีก็บังเกิดกับเราได้นะ” ( ประโยคที่ 3 )
คำพูดของคุณพ่อทำให้ข้าพเจ้ารู้สึก ละอายใจในตัวเองเป็นอย่ างมาก นับแต่นั้นมา ข้าพเจ้าก็จดจำสามประโยค
ที่คุณพ่อไว้มิรู้ลืม ยึดเป็นหลักในการดำรงชีวิต ไม่ว่าเป็นการวางตัว
หรือปฏิบัติหน้าที่ก็มักจะคำนึงถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อน ผลก็เป็นอย่ างที่คุณพ่อได้สอนสั่งไว้จริง ๆ
ทำให้ความโ ชคดีมาเยือนอย่ างคาดไม่ถึง หน้าที่การงานของตัวเองเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ
งานบางอย่ างก็ไปแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา : fahhsai