1. รักในสิ่งที่ทำ
คนที่ประสบความสำเร็จมีความสุขในสิ่งที่ทำเสมอ ทั้งหมดเกิดจากพลังขับเคลื่อน (Passion)
และแรงบันดาลใจ (Inspiration) ที่ผสมผสานกันอย่ างลงตัวเมื่อคุณถูกแรงกดดัน
หรือปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาทั้ง เงิ น เวลา สุ ขภาพ
พลังขับเคลื่อนอย่ างแรงกล้าและแรงบันดาลใจเท่านั้นที่จะช่วยให้คุณฝ่ าฟั นมันไปได้
“หนทางเดียวที่จะทำงานที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จคือการรักในสิ่งที่คุณทำอยู่”
2. คิดแต กต่าง ไม่ยอมตามใคร
คนที่ประสบความสำเร็จมักมีความเป็น “ขบถ” อยู่ในตัวเอง “ขบถ”ในที่นี่หมายถึง กล้าที่จะแย้ง
กล้าที่จะเปลี่ยนโลก กล้าที่จะคิดไม่เหมือนใคร“ชีวิตนี้แสนสั้น ต้องแหกกฎ”
“ถ้าคุณยอมเดินตามรอยเท้าคนอื่นบนผืนทราย
คุณจะไม่มีวันสร้างรอยเท้าของตัวเองเลย”คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะไม่ยอมเชื่อ
คนอื่นที่บอกว่าทำไม่ได้จนกว่าจะได้ลงมือทำถ้าคุณเชื่อคนอื่นที่บอกว่าทำไม่ได้ ไม่ควรทำ
เพียงเพราะมันมีความเ สี่ยง โอกาสในการลงมือทำและประสบความสำเร็จจะ
เป็นศูนย์ทันทีถ้าคุณมีความคิดที่ดีกว่า คุณต้องแหกกฎไม่เช่นนั้นจะมีซักวันที่คุณพูดว่า
“ชั้นว่าแล้ว… มันต้องเป็นแบบนี้”เพียงเพราะคุณไม่กล้าที่จะคิดต่างและลงมือทำด้วย
มือของคุณเอง
3. ลงมือทำ หาทุ กช่องทางไปให้ถึงเป้าหมาย
คนที่ประสบความสำเร็จมักจะบอกว่า “สิ่งที่คุณคิดจะกลายเป็นจริงเสมอ”นั่นคือ ความเชื่อ
ต่อตัวเอง ต่อสิ่งที่ตัวเองคิด เมื่อคุณเชื่อ ส ม อ ง จะห ลั่ งส ารที่ทำให้ร่ างกายทำตาม
บางคนอาจบอกว่า ผมคิด
แต่ร่ างกายไม่สั่งให้ทำ มีข้อโต้แย้งในตัวเองอยู่เสมอเมื่อคนอื่นแย้ง ก็รู้สึกชะงัก นั่นแสดง
ว่าคุณยังไม่เชื่อในสิ่งที่จะลงมือทำไม่มีใครบอกคุณหรอกครับว่ากว่าที่เค้าจะประสบความสำเร็จ
ต้องเผชิญความกลัวที่จะเสี ยเ งินขนาดไหน ต้องทน
กับการทำงานทั้งวันทั้งคืนขนาดไหนต้องทนกับความล้ มเหลว โดน ห ล อ ก โดนต่อว่าขนาด
ไหนมันคือความจริงที่คุณต้องเจอถ้าต้องการประสบความสำเร็จ“ทุ กสิ่งทุ กอย่ างที่คุณกำลังคิด
คือจุดเริ่มต้นของการกลายร่างเป็นชีวิตจริงของคุณ”
ให้คุณตะโกนบอกความคิดนั้นกับตัวเองดัง ๆ และพูดกับตัวเองเหมือนกับคุณกำลัง
พูดกับคนที่คุณรัก แล้วคุณจะประสบความสำเร็จบางครั้งคุณต้องรู้จักคุยกับตัวเองถึงเป้าหมาย
หรือความคิดที่มีอยู่ เหมือนกับการพูดกับเงาของตัวเอง
ต่อสู้กับความกลัวภายในใจและก้าวข้ามมันให้ได้ ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณเอาชนะ
ด้ า น มื ดหรือความกลัวในจิตใจ ยิ่งคุณลงมือทำบ่อยแค่ไหนโอกาสของความสำเร็จ
จะมากขึ้นเท่านั้น
4. อยู่กับปัจจุบันและความเป็นจริง ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน
การมีความฝันที่ยิ่งใหญ่เป็นสิ่งที่ดี แต่ความฝันที่ยิ่งใหญ่มักมาพร้อมกับความย ากเย็นแสนเข็ญ
เสมอคนที่ประสบความสำเร็จมักจะเริ่มต้นที่การยอมรับว่าตัวเองอยู่ตรงไหนก้าวแรก
มักเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ สั้น ๆ
ในขณะที่ตามองที่เป้าหมายหรือความสำเร็จที่ต้องการอยู่ตลอดเวลา การก้าวเล็ก ๆ สั้น ๆในช่วงแรก
จะทำให้ก้าวต่อไปของคุณมั่นคง ไม่หกล้ มง่าย ๆคนส่วนใหญ่มองเห็นแต่ตอนที่เค้าประสบความ
สำเร็จแล้วอย ากเป็นแบบนั้นบ้าง อย าก
ประสบความสำเร็จเร็ว ๆ จึงก้าวย าว ๆ มองหาทางลัดแต่โลกธุรกิจไม่มีทางลัด คนที่ประสบความ
สำเร็จส่วนใหญ่เริ่มจากก้าวสั้น ๆ เสมอถ้าคุณคิดว่า คุณมีเงิ นและพร้อมจะลงทุนมาก ๆ
เมื่อนั้นคุณได้ก้าวไปสู่จุดแห่งการล้ มเหลวแล้ว
เงิ นไม่ใช่จุดเริ่มต้นของความสำเร็จและส่วนใหญ่คนที่คิดแบบนั้นมักจะไม่ประสบความสำเร็จ
เป้าหมายจะสำเร็จได้เมื่อคุณได้แบ่งเป้าหมายนั้นเป็นเป้าหมายย่อย ๆเหมือนหลักกิโลเมตร
คุณไม่มีทางขับรถจากกรุงเทพไปสงขลาโดย
ไม่ผ่ านจังหวัดชุมพรฉันใดความสำเร็จก็ไม่สามารถก้าวกระโดดได้ฉันนั้นกำหนดเป้าหมายรายวัน
รายเดือนของคุณและถามตัวเองว่า อะไรบ้างที่คุณต้องทำและถามต่อไปว่า
สิ่งที่ทำมันจะทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมาย
หรือความสำเร็จที่ตั้งไว้หรือเปล่า นั่นคือวิ ธีการที่ทำให้คุณหายใจช้าลง ๆ และละเอียดมากขึ้น
เมื่อนั้นความล้ มเหลวคือสิ่งที่คุณคาดการณ์ได้ในระดับหนึ่งแล้ว
5. กระหายต่อการไปถึงเป้าหมาย
“ยิ่งคุณทำให้เป้าหมายชัดเจนมากเท่าไหร่ คุณจะสัมผัสความเป็นจริงและความสำเร็จ
ในการทำธุรกิจได้มากเท่านั้น”“ความกระหายต่อการไปถึงเป้าหมายไม่ใช่การมองเห็นว่า
เป้าหมายของคุณคืออะไร
แต่มันคือความรู้สึกที่คุณมีต่อสิ่งนั้นมากกว่า”พูดง่าย ๆ หากคุณอย ากเล่นเปียโนให้ได้ในระดับโลก
เมื่อหลับตา คุณต้องรู้สึกถึงความปิติยินดี ความภาคภูมิใจ เ สียงปรบมือที่ดังก้องฮอลล์
เมื่อนั้นคุณจะมีรอยยิ้มที่มุมปาก ความฮึกเหิมจะเกิดขึ้น ร่ างกายจะร้อนผ่ าว
เหมือ นพ ลั ง ภายในตัวจะ ร ะ เ บิ ด ออกมา นั่นคือความรู้สึกของการไปถึงเป้าหมาย คนที่ประสบความ
สำเร็จจะรู้สึกถึงการขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของภูเขา
ไม่ใช่การปีนขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุดเมื่อคุณรู้สึกถึงการขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของภูเขาได้ คุณจะเห็นเส้นทาง
ที่ทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จและนั่นจะสร้างความกระหายต่อการไปถึงเป้าหมาย
หรือความสำเร็จนั้น
ขอบคุณที่มา : sabailey