Home ข้อคิด ก่อนเป็น เจ้าของกิจการต้องมี 12 ขั้นตอนเตรียมตัว

ก่อนเป็น เจ้าของกิจการต้องมี 12 ขั้นตอนเตรียมตัว

28 second read
ปิดความเห็น บน ก่อนเป็น เจ้าของกิจการต้องมี 12 ขั้นตอนเตรียมตัว
0
400

1. มองโอกาสของธุรกิจ ถือว่าสำคัญมาก แม้ว่าเราชอบหรืออ ย า กจะทำอะไร แต่ถ้าทำไปแล้ว

ไม่มีลูกค้า ไม่มีคนซื้อ ก็ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ดังนั้น การที่คิดจะทำธุรกิจอะไร

 

ต้องวิเค ราะห์ตลาดและพฤติ ก ร ร ม ผู้บริโภคด้วย ว่าลงทุนวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ลูกค้ายังจะซื้อเรา

อีกไหม หรือธุรกิจที่เราชอบในวันนี้ อีก 1- 2 ปีข้างหน้า ยังจะได้รับความนิยมอยู่หรือไม่

เราต้องมองโอกาสของธุรกิจด้วย

 

2. กำหนดสิ่งที่อ ย า กทำ เมื่อเรา อ ย า ก เป็นเจ้าของธุรกิจ เราต้องค้นหาหรือถามตัวเองว่า

อ ย า กทำอะไร หรือชอบอะไรเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเรารักในสิ่งที่อ ย า กทำด้วยแล้ว ก็จะทำให้ธุรกิจ

ที่จะทำประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เพราะเราจะตั้งใจทำอย่ างเต็มความสามารถ

 

3. วางแผนการตลาดและแผนธุรกิจ การตลาดที่ได้รับความนิยมในวันนี้ คือการใช้ช่องทางสื่อ ส า ร

ผ่ า น ทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Social Media ต่างๆ เพราะสาสามารถเจ้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดีที่สุด

 

ขณะเดียวกันเราต้องจัดทำแผนธุรกิจ ระบุรายละเอียดต่างๆ ว่าเป้าหมายของธุรกิจคืออะไร

เราต้องทำงานอะไรบ้างให้ประสบความสำเร็จ แผนธุรกิจจะครอบคลุมโครงสร้างส่วนต่างๆ ของธุรกิจ

 

4. สอบถามลูกค้าเพื่อหาไอเดีย เชื่อมโยงกับข้อ 2 เพราะก่อนจะลงทุนทำธุรกิจอะไรให้ประสบความสำเร็จ

อ ย า กแรกต้องดูเทรนด์ตลาดและความต้องการของผู้บริโภคด้วย

 

อาจทำแบบสอบถามหรือพูคุยกับลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ โดยตรง หรือสอบถามทางช่องทางออนไลน์ก็ได้

ว่าลูกค้าชอบสินค้าหรือบริการที่เราอ ย า กจะทำหรือไม่ เพื่อเป็นการแนวร่วมเดียวกัน ถ้าสอบถามหลายๆ

คนบอกว่าไม่ชอบ เราก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจก่อนที่จะลงทุนจริงๆ จังๆ ได้ทันเวลา

 

5. ประเมินธุรกิจ และปรับเปลี่ยน หลังจากที่เราได้ทดลองเริ่มต้นธุรกิจไปแล้ว พอ ผ่ า น ไปได้ประมาณ

เดือนกว่าๆ ก็ลองมาวิเค ราะห์ธุรกิจดูว่า ผลกาตอบรับจากตลาดและลูกค้าเป็นอย่ างไร

 

ยอดขายเพิ่มขึ้น ทุ ก วันหรือไม่ หรือคงที่ หรือยอดขาย ต ก เมื่อเราเห็นภาพก็จะสามารถนำไป

ปรับปรุงแก้ไขได้ทันท่วงที โดยนำเอาข้อเสนอแนะจากลูกค้ามาปรับปรุงให้ตอบโจทย์ลูกค้า จะดีที่สุดครับ

 

6. เริ่มต้นจากธุรกิจขนาดเล็กๆ เป็นการทดลองการทำธุรกิจ ว่าจะไปได้หรือไม่ได้ เหมือนเป็นการ

ลองผิดลองถูก ถ้าเจ๊งก็ไม่ต้อง เ สี ย เ งิ น งบประมาณจำนวนมาก

 

แต่ถ้าไปรอดหรือได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดและลูกค้าก็ค่อยๆ ขยับขย ายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

ที่สำคัญเหมาะสำหรับช่วงที่เรายังทำงานประจำอยู่ ยังปลีกตัวไปทำเต็มตัวไม่ได้ ต้องทำขนาดเล็กๆ ไปก่อน

 

7. การหาแหล่งเ งิ นทุน ถ้าเราคิดจะทำธุรกิจ ข า ด เล็ก เราอาจใช้เ งิ นเก็บจากการทำงานประจำมาใช้จ่าย

ช่วง 1- 2 เดือนแรกก่อนก็ได้ ถ้าหากมีเ งิ นเก็บจำนวนมาก แต่ถ้าอ ย า กทำธุรกิจที่มันใหญ่ขึ้น

 

เพราะมีตลาดและลูกค้ารองรับอยู่แล้ว ก็อาจจำเป็นต้องหาแหล่งเ งิ นทุนที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการ

ขอสินเชื่อจากสถาบันการเ งิ นต่างๆ รวมถึงแหล่งเ งิ นทุนจากญาติพี่น้อง

 

8. รวบรวมทีมงาน มาถึงตรงนี้ ถ้าความคิดในการทำธุรกิจของเราจะเป็นไปได้มากที่สุด ผลการตอบรับ

จากช่วงทดลองทำการตลาด ได้รับผลการตอบรับดี ต่อไปเราต้องคิดว่าถ้าเราออกจากงาน

 

เพื่อมาทำธุรกิจของเราเต็มเวลา เราจำเป็นต้องทีมงาน เพื่อการขย ายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

ไม่ว่าจะเป็นทีมงานการตาด การเ งิ น การผลิต การบริการลูกค้า เป็นต้น

 

9. ลาออกจากงานประจำ เมื่อธุรกิจพร้อมแล้ว ให้ลาออกจากงานประจำวัน เพื่อทำงานของตัวเองอย่ างเต็มที่

แต่อย่ าลืมว่าในการออกมาทำธุรกิจของตัวเองนั้น ในวันข้างหน้าเราอาจจะต้องได้พบเจอกับหัวหน้าเก่า

 

เจ้านายเก่า หรือเพื่อนร่วมงานเก่าๆ ดังนั้น ก่อนการลาออกต้องบอกเจ้านายและเพื่อนร่วมงานให้ดี

ไม่ บ า ด หมางใจกัน เพราะอนาคตธุรกิจอาจต้องพึ่งพาช่วยเหลือกัน

 

10. วางโครงสร้างบริษัท ในเวลาเดียวกัน ถ้าเราจะเดินหน้าธุรกิจจริงๆ ต้องมองด้วยว่าจะจัดตั้งบริษัท

ในรูปแบบไหน เช่น บริษัทคนเดียว หรือหุ้นส่วน หรือจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล เป็นต้น

เพื่อที่จะได้รับการดูแลตาม ก ฎ ห ม า ย อย่ างถูกต้อง

 

11. ปรับขนาดธุรกิจตามแผนการตลาด สุดท้ายคือ การทำธุรกิจให้เป็นไปตามแผนงานหรือแผนธุรกิจที่เรา

ได้เขียนเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าออกจากงานแล้วธุรกิจไปได้สวย แต่ตอนแรกแผนธุรกิจเขียนเล็กๆ

 

เราก็ต้องมาปรับขนาดธุรกิจให้เท่ากับแผนการตลาดในปัจจุบัน เช่น ถ้าสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด

ต่างประเทศ เราก็ต้องปรับขนาดธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับตลาดต่างประเทศ

 

เช่น อาจต้องเพิ่มทีมงานด้านต่างประเทศโดยเฉพาะ รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตที่มากขึ้นด้วย

ทั้งหมดเป็นขั้นตอนในการก้าวไปสู่ในการเป็นเจ้าของกิจการ หรือการเป็นนายตัวเอง

 

ในขณะที่เรายังเป็นลูกจ้างอยู่ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กันมาก เพราะการวางแผน

เป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่งเรายังทำงานประจำ จะมีความ เ สี่ ย ง น้อยกว่าการลาออกจากงานมาเริ่มต้น

ธุรกิจเลย อย่ างน้อยเราก็มีเ งิ นทุนหมุนเวียนในขณะที่เราเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ อยู่

 

12. ตั้งงบประมาณในการทำงาน ช่วงเวลาที่เราทำงานประจำ อาจจะไม่สามารถจัดสรรเรื่องงบประมาณ

ในการทำธุรกิจได้อย่ างเต็มที่ แต่เมื่อเราออกจากงานประจำมาบริหารกิจการของเราอย่ างเต็มที่แล้ว

 

อ ย า กแรกเราต้องบริหารงบประมาณในการทำธุรกิจ แยกออกเป็นแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นการผลิต

การตลาด การจำหน่าย การขนส่ง รวมเ งิ นทุนหมุนเวียนในบริษัท เป็นต้น

 

ที่มา : t h a i s m e s c e n t e r

Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คำกล่าวเปิดงาน ใช้บ่อย เก็บไว้ฝึกให้ พูดคล่อง ๆ

1. งานเลี้ยงส่ง เรียน ท่าน (ประธานจัดงาน) และแขกผู้มีเก … …