1. โฟกัสแค่ตัวเองก็พอ
ไม่ปล่อยให้สังคมการทำงานมาทำให้เราสูญเสี ยความเป็นตัวเอง
รู้หรือไม่ว่าหลายคนยอมลดศักยภาพของตัวเองลง
เพื่อจะได้ไม่กลายเป็นจุดเด่น ยอมเป็นแกะที่ถูกย้อมสีทับให้เหมือนตัวอื่น ๆ
เพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเล็ก
ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะย าว เพราะโลกของการทำงาน คนเก่งที่สุด
ในทีมมักจะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งก่อน
ใครเขายิ่งไปกว่านั้นสังคมทำงาน แ ย่ ๆ อาจทำให้เรารู้สึกไม่อย าก
ทำอะไรเลยในชีวิตนอกจากนอนโ ง่ ๆ อยู่บ น เ ตี ย ง
ในวันหยุดเท่านั้น ดึงตัวตัวเองกลับมาได้แล้วหากิจกร รมนอกเวลางาน
ที่ทำแล้วมีความสุข มี Passion ในการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองอย่ างที่ควรจะเป็น
2. อย่ าเข้าไปร่วมวงสนทนาใต้เตียงดารา
จำให้ขึ้นใจว่า ไม่มีใครในโลกไม่ถูกนินทา วันนี้เราอาจอยู่ในวงสทนาแต่วันหน้า
เราอาจจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาก็ได้ใครจะรู้ ดังนั้นหลีกหนี
ให้พ้นจากคนที่มีความคิดลบ คนที่คอยนินทาว่า ร้ า ย คนอื่นเพราะคนพวกนี้มักจะมี
Self-esteem ต่ำ ไม่เคารพตัวเองมากพอจนต้องทำให้คนอื่นดู แ ย่
เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าเหนือกว่า ถ้าอยู่ดี ๆ ดันต กไปอยู่กลางวงขาเม้าท์ประจำออฟฟิศ
ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การเงียบ ไม่ออกความคิดเห็นใด ๆ
นอกจากนี้ถ้าเราถูกเม้าซะเองก็อย่ าเอาคำพูด แ ย่ ๆจากคน แ ย่ ๆ เก็บมาใส่ใจ
เรารู้ตัวเราเองว่าเป็นคนยังไงพอ จบ แยก!
3. เปลี่ยน Mindset ซะใหม่
ไม่มีอะไรสามารถทำ ร้ า ย เราได้เท่ากับความคิดของเราเอง ในเมื่อเราไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงใครต่อใครก็จงเปลี่ยนความคิดและมุมมองที่ตัวเราใหม่
เลือกโฟกัสแต่ความสุขส่วนความทุ กข์ให้ปล่อยเบลอในทุ ก ๆ สถานการณ์ที่ย่ำ
แ ย่ มักจะมีเรื่องราวดี ๆ ซ่อนอยู่เสมอ เพียงแค่เราต้องหาให้เจอเท่านั้นเอง
วันนี้เจ้านายอาจจะตีงานกลับมาให้แก้ใหม่ เพราะเขาอาจเห็นว่าเรามีศักยภาพ
ในการสร้างผลงานได้ดียิ่งกว่านั้น
บ่นไปก็ไม่ช่วยให้งานเสร็จไวขึ้น จริงไหม? สร้างเกราะป้องกันความคิดลบที่คอย
แต่จะทำให้สถานการณ์มันย่ำ แ ย่ ไปกว่าเดิมเสี ยดีกว่า
4. หาวิ ธีแก้ปัญหาแบบยั่งยืน
ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม! ถอยออกมาจากความสิ้นหวัง เพื่อมองภาพในมุมกว้าง
มองว่าปัญหาอยู่ตรงไหนมีวิ ธีอะไรที่สามารถช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นได้บ้ าง
เรียกได้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแก้ไขปัญหาแทนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาซะเอง
อย่ างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นสิ่งที่แก้ไขอะไรไม่ได้ก็จงยอมรับ
และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่ างปกติสุขที่สุด แต่ถ้าหากวันนึงเราพบว่าความสุข
ที่เคยได้รับจากที่ทำงานไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว
จนกระทบกับชีวิตส่วนตัว ครอบครัวและคนรอบข้างจากการแบกรับ
ค ว า ม เ ค รี ย ด ที่มากเกินไปท้ายที่สุดการลาออก
อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้จงรู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเองทันทีที่คิดลบ
ให้รีบพาตัวเองไปขั้วบวกทันที!
ในโลกความเป็นจริง ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเราไปหมดทุ กอย่ างปัญหามีอยู่ทุ กที่
แต่อยู่ที่เราจะเรียนรู้และปรับตัวยังไงให้อยู่กับมันได้ต่างหากซึ่งเป็นกุญแจ
สำคัญของการใช้ชีวิตในสังคมการทำงานให้มีความสุข
5. พาตัวเองไปรับพ ลั งบวกเยอะ ๆ
แม้สังคมการทำงานจะเป็นสังคมเล็ก ๆ แต่เราก็ควร ‘เลือก’ h a n g o u t เฉพาะกับ
เพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจในทาง จิ ต วิ ท ย า
หากเราใช้ชีวิตร่วมกับคนแบบไหนนาน ๆ เราจะกลายเป็นคนแบบนั้นเพื่อนที่ชอบบ่น
ตินู่น ตินี่ มักจะแผ่กระจายความรู้สึกด้านลบให้คนรอบข้างมีความรู้สึกร่วม
ไปกับเขาจงรู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเองทันทีที่คิดลบ ให้รีบพาตัวเองไปขั้วบวกทันที
อาจจะติ ด post it ข้อความให้กำลังใจที่โต๊ะทำงานเพื่อเตื อนสติ
หรือพักเบรคระหว่างงานบ้ างสัก 10 นาที ฟังเพลง สูดอากาศ รีเซ็ตอ ารมณ์
ตัวเองก่อนกลับไปทำงานที่เหลือ
ขอบคุณที่มา : yimlamun