Home ข้อคิด ศูนย์กลางจักรวาล อ ย่ า ทำตัวแบบนั้น

ศูนย์กลางจักรวาล อ ย่ า ทำตัวแบบนั้น

14 second read
ปิดความเห็น บน ศูนย์กลางจักรวาล อ ย่ า ทำตัวแบบนั้น
0
644

1. เลิกดูถู กตัวเอง

สิ่งสำคัญที่ผมมักให้คำแนะนำกับหลายๆ คนที่มาปรึกษาผมหรือ ผมไปปลอบเขาในวันที่รู้สึก แ ย่ ๆ

คือการบอกว่าอย่ าดูถู กตัวเองหรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เพราะนั่นจะทำให้เราปิดตัวเองอย่ างรวดเร็ว

และนำไปสู่ภาวะ ซึ ม เ ศ ร้ า ไร้ความมุ่งมั่น และยอมแพ้กับชีวิตเอาได้ง่ายๆ

 

ผมเองก็เคยผ่ านชีวิตช่วงที่คิดแบบนี้มาก่อน ผมบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีเลยแม้แต่น้อย มันมีแต่ทำให้

เรารู้สึกว่าทุ ก ๆ อย่ างคงไม่มีอะไรดีตราบใดที่ยังเป็นตัวเราทั้งที่จริง ๆ แล้วตัวเราเองก็มีค่าสำหรับหลายๆ คน

 

และยังสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย เพียงแต่เราไป ตี ต ร า มันเพราะความผิ ดพลาดบางอย่ างที่ได้เกิดขึ้น

ไปแล้ว ต่อให้ที่ผ่ านมาเราจะผิ ดพลาดอะไรไป มันอาจจะไม่ได้ดั่งใจ มันอาจจะไม่สวยงามแต่ก็ไม่ได้

หมายความว่าวันพรุ่งนี้มันจะ แ ย่ แบบนั้นตลอดไปมันอยู่ที่เราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงและทำให้มันดีขึ้นไหม

 

คนจำนวนมากผิ ดพลาดอยู่ไม่น้อย ลองผิดลองถูกก็เยอะแต่เพราะการพย าย าม ที่จะไปสู่สิ่งที่ดีกว่ามันค่อยๆ

เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาทีละเล็กทีละน้อยซึ่งนั่นต่างจากการเอาแต่คิดว่าอะไร ๆ ก็ แ ย่ และไม่ทำอะไรให้ดี

ขึ้นมาเลย

 

2. เลิกเอาตัวเองไปตาม / เทียบกับคนอื่น

หนึ่งในความทุ กข์ มาตรฐานของคนแบบเราๆ คือการที่พบว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น ตัวผมเองก็เคยต กอยู่

ในภาวะแบบเดียวกันเมื่อผมพย าย าม เอาชีวิตตัวเองไปเทียบกับคนรอบข้าง ทั้งที่จริงๆ แล้ว

 

การเทียบแบบนี้มีแต่จะทำให้เรากดดัน รู้สึก แ ย่ เพราะท้ายที่สุดเราก็จะพย าย าม มองไปว่าเราด้อยกว่าเขา

เรื่องนั้นเรื่องนี้ (หรือถ้าใครดีกว่าก็กลายเป็นว่าดูถู กคนอื่นเสี ยอีก)

นั่นยังไม่นับกับการพย าย าม เดินตามคนอื่นๆ จนหลายๆ คนก็ลืมตัวตนของตัวเองไปเลยสำหรับผมนั้น

 

สิ่งที่ดีคือ การที่เราหาคุณค่าในแบบตัวเราเองแล้ว ขัดเกลามันให้ดีในแบบที่เราเป็น ไม่ต้องไปเทียบว่าคนอื่น

เป็นอย่ างไรเราต้องไม่ลืมว่าคนอื่นๆ นั้นมีปัจจัยที่ต่างจากเราไม่ว่าจะพื้นฐานครอบครัว ประสบการณ์ ฯลฯ

ซึ่งมันไม่แฟร์เลยที่เราจะพย าย าม เอาตัวเราไปเทียบกับเขาเพียงเพื่อจะเอาชนะ (และสุดท้ายก็แพ้อยู่ดี)

 

3. เลิกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล

ฟังคนอื่นมั่ง – คือสิ่งที่ผมมัก บอกหลาย ๆ คนที่มักเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง ประเภทชั้นทำอะไรถูกเสมอ

ชั้นมีเหตุผลของชั้นและเหตุผล ของชั้นนั้นเพียงพอสำหรับทุ ก ๆ อย่ าง และพอมาก ๆ เข้าก็กลายเป็นว่าทุ ก

อย่ างในชีวิตต้องเป็นไปตามที่ตัวเองคิดสิ่งที่คนอื่นพูดมานั้นหากไม่ใช่การยอมรับ

 

หรือเห็นด้วยก็ จะมองว่าไม่เข้าข้าง คิดผิด และปฏิเสธความคิดเหล่านั้นไปเสี ยหมดที่หนัก ๆ คือหลาย ๆ

คนได้เจอคนดี ๆ เข้ามาตักเตื อนก็ไม่ฟัง หาว่าคนเหล่านั้นไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่ตัวเอง ฯลฯ ผมมักพูดเสมอว่ามันมี

แบ่งบางๆ ระหว่างความเชื่อมั่นในตัวเองกับการหลงตัวเอง

 

ซึ่งถ้าเราตั้งสติและแยกแยะไม่ดีแล้วเราจะข้ามเส้นไปสู่การทนงและเต็มไปด้วย E g o ชนิดที่ไม่ยอมรับเหตุผลอื่นๆ

ซึ่งอาจจะถูกหรือดีกว่าที่เราคิดด้วยซ้ำนอกจากนี้แล้ว

 

ชีวิตของเรายังมีคนมากมายที่อาจจะเก่งกว่าเรา รู้มากกว่าเรา มีประสบการณ์มากกว่าเรา มีวิสัยทัศน์มากกว่า

เราซึ่งคนเหล่านี้ในมุมหนึ่งเหมือนครู / เทวดาของเราที่ช่วยเตื อนหรือแนะนำ ทางที่ใช่ให้กับเรา

แน่นอนว่าคำแนะนำบางอย่ างอาจจะขัดใจหรือไม่ตรงกับที่เราคิด แต่ก็นั่นแหละที่คำแนะนำเหล่านั้นหลายๆ ครั้ง

 

ทำให้เราเปลี่ยนวิ ธีคิดไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ ชีวิตผมเองก็ได้คนเหล่านี้ช่วยแนะนำและขัดเกลาตัวผมมาตลอดลองดูสิครับ

ลองเปิดใจฟังคำแนะนำ คำตัก เตื อ น ของคนที่คนมองว่าน่าเชื่อถือและปรารถนาดีกับคุณ

อย่ าฟังแต่เฉพาะเสี ยงที่เยินยอ

 

สรรเสริญคุณหรือปลอบแบบเห็นอกเห็นใจคุณโดยไม่สนผิดถูก (ซึ่งเอาจริง ๆ เสี ยงเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวและพึงระวั ง

เสี ยอีกต่างหาก) เพราะนั่นอาจจะเป็นการสร้างกะลามาครอบตัวคุณโดยไม่รู้ตัว

 

4. เลิกคิดว่าคนอื่นไม่เข้าใจตัวเอง / ไม่มีใครเป็นแบบฉัน

เอาจริง ๆ มันก็ไม่มีใครที่จะมีประสบการณ์แบบเรา 100% เพราะแต่ละคนก็ล้วนมีปัจจัยที่แต กต่างกันไปแต่นั่น

ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเข้าใจและเข้าถึงตัวเราไม่ได้ การไปตราหน้าเขาว่าไม่เข้าใจ

ไม่รู้จักตัวเรามันก็กลายเป็นการสร้างอคติให้ตัวเราเองจนไม่สามารถฟังความเห็น

 

หรือมุมมองจากคนอื่นในประสบการณ์ของผมนั้น คนเก่งๆ และคนที่สามารถสร้างทางชีวิตไปสู่สิ่งดีๆ นั้นคือคนที่เปิดรับ

มุมมองจากคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเอง “เห็นรอบ” มากขึ้นก่อนจะสามารถเลือกเดินได้อย่ างดี ทั้งนี้เพราะพวกเขาจะ

อะไรมากกว่าที่เขามองด้วยตัวเองเพียงคนเดียวแม้ว่าใครๆ ก็อาจจะไม่ได้เข้าใจคุณ 100%

 

แต่บางอย่ างจากประสบการณ์ของพวกเขาก็อาจจะเคยผ่ านอะไรที่คล้าย ๆ กัน เทียบเคียงกันได้ บ้างก็อาจจะเคยเจอ

อะไรที่หนักกว่าเราเสี ยด้วยซ้ำ มันเลยน่าจะเป็นเรื่องดีที่ลองฟังเรื่องราวและมุมมองจากเขาแล้วเอามาประกอบ

การวิเคร าะห์ ของเราเอง (แทนที่จะปิดกั้นตั้งแต่ยังไม่ทันรู้)นอกจากนี้แล้ว

 

สิ่งสำคัญที่ทำให้เราโตขึ้นคือการได้สะสมประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งการเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่นๆ ย่อมดีกว่าการ

ที่เราสนใจแต่ประสบการณ์ของตัวเราเองคนเดียวนั่นแหละ

 

ขอบคุณที่มา : verrysmilejung

Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คำกล่าวเปิดงาน ใช้บ่อย เก็บไว้ฝึกให้ พูดคล่อง ๆ

1. งานเลี้ยงส่ง เรียน ท่าน (ประธานจัดงาน) และแขกผู้มีเก … …