Home ข้อคิด กำแพงแห่งทิฐิ อาจ เ สี ย ใจไปตลอด

กำแพงแห่งทิฐิ อาจ เ สี ย ใจไปตลอด

8 second read
ปิดความเห็น บน กำแพงแห่งทิฐิ อาจ เ สี ย ใจไปตลอด
0
11,052

หนุ่มสาวคู่หนึ่ง คบหากันมาหลายปี แต่ผู้ชายต้องได้ไปเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 2 ปี

ทั้งคู่ต่างให้คำมั่นสัญญาว่าจะรักและซื่อสัตย์ต่อกัน ถึงแม้จะต้องห่างกันถึง 2 ปี

 

และในขณะนั้นฝ่ายหญิงก็กำลังอุ้มท้องได้ 7 เดือนแล้ว ชายหนุ่มรู้สึกเสี ยดาย

ที่จะไม่ได้เจอหน้าลูกในวันที่คลอด แล้วทั้งคู่ก็กอดลากันผ่ านไป 2 ปี

ทั้งคู่เฝ้ารอเวลาที่จะได้พบกัน

 

เมื่อเห็นหน้ากันอีกครั้ง จึงวิ่งเข้ากอดด้วยความคิดถึงอย่ างหนัก จนลืมไปว่ายังมีหนูน้อยยืนอยู่ด้วย

เมื่อชายหนุ่มหันมามองหน้าหนูน้อย ก็ยิ้มด้วยความดีใจและเข้าไปกอดลูกของเขาเช่นกัน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฝ่ายหญิงจึงบอกกับฝ่ายชายว่าจะออกไปซื้อของที่ตลาดไม่นาน

 

แล้วจะกลับมาทำข้าวเย็นกินกัน ให้ฝ่ายชายอยู่เล่นกับลูกไปก่อน ในระหว่างที่ฝ่ายชาย

กำลังเล่นกับลูกอยู่นั้นเขาก็ได้ถามหนูน้อยว่า

“ไม่ได้เจอกันเลย คิดถึงพ่อหรือเปล่า แม่เล่าเรื่องพ่อให้ฟังบ้างไหม”

 

หนูน้อยจึงพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ คุณน้าไม่ใช่พ่อหนู เพราะพ่อของหนูมาหาหนูทุ กคืน เวลาที่หนูนั่ง

พ่อก็จะนั่ง เวลาหนูยืน พ่อก็ยืน” เมื่อชายหนุ่มได้ยินแบบนั้น ก็รู้สึกโกรธที่ฝ่ายหญิ

งแอบนอกใจเขาไปมีคนอื่น

 

ในระหว่างที่เขาไม่อยู่ และยังให้ลูกเรียกคนอื่นว่าพ่ออีก หญิงสาวกลับมาจากตลาดก็ได้

ถามฝ่ายชายว่าอย ากกินอะไรเป็นพิเศษไหม แต่ฝ่ายชายกลับเงียบ ไม่ตอบอะไร

จนทำให้ฝ่ายหญิง

 

งงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็เงียบตอบกลับเช่นกันพอถึงเวลารับประทานอาหาร ทุ กคนต่าง

พากันเงียบไม่พูดไม่จาใส่กัน อาหารในมื้อนี้จึงเต็มไปด้วยความอึดอัดและเงียบสงัด

แทนที่ความรู้สึกดีใจที่ได้อยู่ด้วยกัน

 

ที่ทั้งคู่เคยโหยหาเมื่อถึงเวลาเข้านอน ทั้งสองก็นอนหันหลังให้กัน โดยที่ไม่มีใครพูดก่อนเลย

ต กดึกชายหนุ่มสะดุ้งตื่นและหันมาเห็นว่าฝ่ายหญิงนั้นไม่อยู่แล้วและพอลงมาที่ข้างล่าง

ก็เห็นหนูน้อยกำลังคุยกับเงาของตัวเอง

 

หนูน้อยพูดขึ้นว่า “นี่ไงพ่อหนูมาแล้ว เวลาหนูนั่งพ่อก็นั่ง เวลายืนพ่อก็ยืน” ชายหนุ่มจึงคิดได้ว่า

เขากำลังเข้าใจฝ่ายหญิงผิดไป และได้ออกไปตามหาตลอดทั้งคืน แต่ก็ไม่พบพอรุ่งสาง

เขาก็พบกับศ พของฝ่ายหญิงที่เกยตื่นอยู่ริมทะเล เขารู้สึกเสี ยใจ เป็นอย่ างมาก

 

รีบวิ่งเข้าไปกอดร่างไร้วิญญ าณของฝ่ายหญิง เขาทนความเสี ยใจไม่ไหว

จึงได้จบชีวิตของตัวเองตามฝ่ายหญิงไป และทิ้งให้หนูน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย

 

ต้องอยู่คนเดียวสุดท้ายทั้งสองก็จบชีวิตของตัวเอง ด้วยเพราะ “ทิฐิ” ที่มีต่อกัน

ต่างคนต่างไม่พูด ไม่มีใครยอมใคร เพราะคิดว่าตัวเองนั้นถูก ไม่ได้ทำอะไรผิด

ทำไมจะต้องพูดก่อน

 

จงอย่ าให้อ ารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล อย่ าเอาทิฐิมาใช้กับคนที่เรารัก

เรื่องเล็ก ๆ จะไม่เป็นเรื่องใหญ่เลย ถ้าต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าว

หันหน้ามาพูดคุยกันให้เข้าใจ จะได้ไม่คิดไปเองจนเกิดเรื่องที่ย ากจะแก้ไขได้อีกแล้ว

 

ขอบคุณที่มา : staylifeth

Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คำกล่าวเปิดงาน ใช้บ่อย เก็บไว้ฝึกให้ พูดคล่อง ๆ

1. งานเลี้ยงส่ง เรียน ท่าน (ประธานจัดงาน) และแขกผู้มีเก … …