การสื่อส ารได้อย่ างมีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในความสามารถที่จำเป็นต่อการ
ใช้ชีวิตมากแต่มันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยให้ความสนใจ
กับมันซักเท่าไหร่ไม่ว่าคุณจะแค่อย ากมีความสามารถใน
การสนทนากับเพื่อน ๆ ได้ดีขึ้น
หรือคุณอย ากจะอธิบายไอเดียเด็ด ๆ ของคุณ ให้เพื่อนร่วมงานฟังบทความนี้
จะบอกคุณถึงเทคนิค ที่จำเป็นในการสื่อส ารอย่ างมีประสิทธิภาพ
มันแทบจะไม่ต่างอะไรกับการขี่จักรย านหรือว่ายน้ำเลย
เพราะถ้าเป็นแล้วคุณจะไม่ลืมมันหรอก!
1. นึกถึงความรู้สึกคนอื่น
การสื่อส ารเป็นอะไรที่ไปสองทาง ถ้าคุณฝึกมองจากมุมมองของฝั่งตรงข้าม
คุณจะลดความกังวลและความย ากลำบาก ในการสื่อส ารกับผู้อื่นไปได้เลย
ยกตัวอย่ างเช่น ถ้าคุณเข้าใจเวลาที่แฟนคุณ บอกว่าเธอเหนื่อยเกินกว่า
ที่จะคุยกันว่าจริง ๆ แล้วมันหมายความว่าเธออย ากคุยกับคุณ
คุณก็มาถูกทางแล้วแหละการนึกถึงความรู้สึกคนอื่นจะทำให้คุณเข้าใจ ข้อความ
ที่ฝั่งตรงข้ามต้องการสื่อได้ดีขึ้นถึงแม้ว่าบางอย่ างเค้าจะไม่ได้พูด
มันออกมาก็ตาม และพอคุณเข้าใจคุณก็จะสามารถโต้ตอบได้อย่ างมีประสิทธิภาพ
อีกด้วยเรารู้ว่ามันไม่ง่ายหรอกที่จะต้องมาคอยนึกถึงคนอื่นตลอดเวลา
แต่การสังเกตพฤติกร รมของคนและคอยเอาสิ่งที่เห็นมาวิเคร าะห์
ก็เป็นวิ ธีที่ดีในการฝึกเรื่องนี้นะ
2. ฟังให้มาก ๆ
สิ่งหนึ่งที่คุณจะทำได้ก็คือ ฟังให้เยอะ ๆ ให้ความสนใจกับสิ่งที่คนอื่น
กำลังพูดและไม่ขัดจังหวะเขา ถึงคุณจะมีสไตล์ในการสื่อส ารที่ไม่ตรงกัน
แต่อย่ างน้อยคุณก็จะเข้าใจในเรื่องเดียวกันนะ และหวังว่า
อีกฝ่ายจะฟังคุณอย่ างตั้งใจเหมือนกับที่คุณฟังเขา
3. ปรับตัวไปตามผู้ฟัง
การสื่อส ารที่ดีที่สุด คือปรับวิ ธีการพูดไปตามผู้ฟัง คุณอาจจะมีสไตล์ในการสื่อส าร
มากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ต้องพูดกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า แฟน
เ ด็กหรือผู้สูงอายุ
พย าย ามนึกถึงผู้ฟังของคุณอยู่เสมอ เวลาที่คุณต้องการจะสื่อส ารกับเขา
แน่นอนว่าอย่ าพูดกับแฟนของคุณ เหมือนกับที่พูดกับหัวหน้าของคุณเชียวนะ
ไม่อย่ างงั้นล่ะก็…อย่ าหาว่าเราไม่เตื อน!
4. พูดสั้น ๆ แต่ก็เจาะจงด้วย
เวลาสื่อส ารทั้งการเขียนและการพูด คุณควรจะมีที่มาเหตุผล
ใจความและประโยคปิดท้ายที่ดี เพื่อที่ข้อความของคุณจะได้สั้นกระชับ
และไม่มีอะไรต กหล่นนอกจากนั้น คุณควรจะสื่อส ารให้ชัดเจนได้ใจความ
เห็นภาพถูกต้องเ นื้อความสอดคล้องกันครบถ้วนสมบูรณ์และสุภาพนอบน้อม
อีกด้วย
5. อย่ าติ ดเอ่อ
การที่คุณพูด “คือ” “เอ่อ” หรือ “แบบว่า” ในระหว่างประโยคมันไม่ทำให้การพูด
ของคุณดูดีขึ้นเลยเอาคำพวกนั้นออกไปเถอะ แล้วประโยคของคุณจะฟังดูน่าเชื่อถือ
และมั่นใจวิ ธีที่จะลดการพูดคำพวกนี้
ก็คือ ตั้งสติและลองนับดูว่าเราพูดมันบ่อยแค่ไหนหรือคุณอาจจะลองเอามือออกจากกระเป๋า
ทำตัวตามสบายและหยุดทำสมาธิก่อนที่จะพูดก็ดีนะ ความเงียบระหว่างประโยคมัน
ไม่แ ย่อย่ างที่คุณคิดหรอก
6. ระวั งภาษากายของคุณไว้ให้ดี
คุณบอกเพื่อนว่าคุณพร้อมที่จะคุยกับเขา แต่คุณกำลังกอด อกอยู่ คุณบอกว่าคุณกำลังฟังที่เขาพูด
แต่ตาคุณก็ยังมองโทรศัพท์…พอจะเห็นภาพหรือยัง? ภาษากายของเรามักจะบอกอะไร
ได้มากกว่าที่เราคิดไม่ว่าจะเป็นวิ ธีที่คุณสบตา หรือท่าทางของคุณในตอนที่สัมภาษณ์คุณ
กำลังสื่อส ารอยู่ตลอดเวลา แม้คุณจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตามมันอาจจะฟังดูเป็นวิ ธีแปลก ๆ
ในการพัฒนา การสื่อส ารของคุณนะ แต่เราอย ากให้คุณ นึกถึง “หัวแม่เท้ า”
หรือลองหาท่าโพสแบบทรงพลังที่จะเพิ่มความมั่นใจให้คุณแบบเต็มเปี่ยมก่อนจะต้องไปเจรจา
งานใหญ่หรือคุณจะลองเรียนรู้ที่จะอ่ านภาษากายของคนอื่น เพื่อที่คุณจะหาวิ ธีตอบกลับไปได้
อย่ างเหมาะสมก็ได้นะ
7. รู้จักเล่าเรื่อง
เรื่องราวต่าง ๆ เป็นอะไรที่ทรงพลังมาก มันจะทำให้เราตื่นตัวทำให้การพรีเซนต์ของคุณ
ดูน่าสนใจมากขึ้น ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น และอาจจะทำให้คุณผ่ านการสัมภาษณ์ไปได้อย่ างดี
ก็ได้ความลับในการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี นั้น คือให้คุณใช้คำว่า “แต่” มาประกอบในการเล่าเรื่อง
ทุ ก ๆ คนมีเรื่องราวดี ๆ อย่ างน้อยหนึ่งเรื่องให้เล่าอยู่แล้วแหละแต่มันจะดีมากเลย
ถ้าคุณเตรียมเรื่องไว้ในหัว อย่ างน้อยสามเรื่องสำหรับสถานการณ์ที่แต กต่างกันคุณสามารถ
ใช้เรื่องพวกนี้เป็นตัวดึงดูด ความสนใจและให้คนฟังคล้อยตามไปในสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่ได้เลยนะ
8. มีสคริปอยู่ในหัวสำหรับการพูดคุยแบบกึ่งทางการ หรือการพูดเนื่องในโอกาสต่าง ๆ
การพูดแบบกึ่งทางการเป็นศาสตร์ ที่มีคนแค่ไม่กี่คนสามารถทำได้ ถ้าคุณไม่ใช่คนพวกนั้น
คุณควรจะวางแผนไว้ล่วงหน้า เพราะการพูดติ ด ๆ ขัด ๆ เวลาที่ต้องคุยกับคนที่เราไม่คุ้นเคยนั้น
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้วการพูดถึงครอบครัว หน้าที่การงาน กิจกร รมย ามว่าง
หรือความฝันของคุณ จะเป็นหัวข้อที่ดีในการสนทนาเพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณ
และคู่สนทนาของคุณได้รู้จักกันมากขึ้นและมันก็ง่ายขึ้นที่จะหาเรื่องคุยอื่น ๆ
ที่คุณทั้งคู่สนใจต่อไป
9. เอาอะไรที่รบกวนความสนใจออกไป
มันค่อนข้างจะหย าบคายนะ ที่คุณเล่นมือถือตลอดเวลา ที่คุณกำลังอยู่กับเพื่อน ๆ
และควรจะคุยกับพวกเขา เราเข้าใจว่าคุณไม่สามารถจะกำจัดสิ่งรบกวนหรือเทคโนโลยีพวกนี้
ออกไปได้หมดหรอก แต่การหยุดใช้มันซักแป๊บนึงจะทำให้ความสามารถในการสื่อส าร
กับคนอื่นของคุณดีขึ้นอย่ างเห็นได้ชัดเลยนะ ในประเทศไทย
การสนทนาแบบตัวต่อตัวแบบธรรมดา ๆ แทบจะสูญพันธุ์ไปแล้วเพราะคนไทยติ ดมือถือ
และไม่สามารถวางมันลงได้คนแบบนี้จะไม่สามารถประสบความสำเร็จในประเทศ
แถบตะวันต กได้อย่ างแน่นอนนะจ๊ะ ระวั งเอาไว้ด้วย ถ้าคุณไม่สนใจฟังที่คนอื่นพูด
พวกเขาก็จะมองว่าคุณเป็นคนหยิ่ งและไม่ฉลาด ซึ่งคุณอาจจะเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้
แต่ว่าเราจะบอกความลับให้ ผู้คนมักจะชอบคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีและฉลาดมากกว่าอยู่แล้ว
ดังนั้นฟังที่พวกเขาพูดเถอะตั้งใจฟัง แล้วคนพวกนั้นก็จะรู้สึกดีกับคุณเองแหละ
10. คอยถามคำถาม และทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
ยอมรับเถอะว่าเราทุ กคน เคยนั่งใจลอยเวลาที่คนอื่นพูดอยู่หรือได้ยินอะไรผิด ๆ
การถามคำถามและทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายพึ่งพูดถึงไป
จะแสดงให้เห็นว่าคุณได้ใส่ใจกับสิ่งที่เขาพูดและช่วยให้คุณได้เข้าใจในบางอย่ างที่คุณ
อาจจะเข้าใจผิดนอกจากนั้นมันยังช่วยในการพูดแบบกึ่งทางการ
และช่วยเติมเต็มความเงียบในบทสนทนาได้อีกด้วยนะ แทนที่จะเปิดการสนทนาด้วยลมฟ้าอากาศ
ลองถามคู่สนทนาของคุณดูว่า หน้าร้อนนี้มีแพลนไปไหนรึเปล่า
หรือช่วงนี้ได้ดูหนังอะไรบ้างไหมแล้วก็ต่อยอดจากคำตอบเหล่านั้นดีกว่าคุณควรจะเป็นคนที่
ให้ความสนใจคนอื่น มากกว่าทำตัวเป็นคนที่น่าสนใจซะเองนะ
ขอบคุณที่มา : sabailey